ข้อคิด ที่แฝงมาในรูปปั้น วัดตะเคียน จ.นนทบุรี
วัดตะเคียน ริมถนนนครอินทร์ พระราม 5 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี วัดนี้ถือเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีโบสถ์หัวเสือ หัวมังกร ซึ่งในแต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาลอดโบสถ์ สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาแบบนอนโลง ลอยเทียน รวมทั้งเที่ยวตลาดน้ำวัดตะเคียน ปัจจุบันมีพระครูสมุห์สงบ กิตติญาโณ หรือหลวงพี่สงบ เป็นเจ้าอาวาส
นอกจาก "รูปปั้นหัวเสือและหัวมังกร" ที่โด่ดเด่นแล้ว อีกสิ่งที่ได้รับความสนใจไม่น้อยยิ่งกว่า คือรูปปั้นตัวละครในวรรณคดี เช่น พระอภัยมณี ผีเสื้อสมุทร เฒ่าชูชก หงอคง ตือโป๊ยก่าย เป็นต้น
รูปปั้นที่นี่มีความแตกต่างกับวัดอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด คือตัวรูปปั้นจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ นาฬิกาหรู แว่นกันแดด ซึ่งหลวงพี่สงบให้เหตุผลว่า ต้องการที่จะสื่อให้เห็นเป็นเรื่องตลกขบขัน แต่แฝงด้วยคติธรรมที่ว่า "ทุกวันนี้ที่เราเป็นหนี้สินนั้น เกิดจากคนเราฟุ่มเฟือยไป จนลืมคำว่าเพียงพอและพอเพียงไปหรือเปล่า"
ช่วงแรกๆนั้น รูปปั้นตัวละครในวรรณคดีมีคนให้ความสนใจถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันกลายเป็นสิ่งธรรมดา เมื่ออาตมาได้ไปเห็นหุ่นยนต์จากหนังเรื่องทรานฟอร์เมอร์ที่ประดิษฐ์จากของเก่า มีความสูงกว่า 10 เมตร จึงติดต่อซื้อมาตั้งที่วัด โดยมีญาติโยมเป็นผู้ร่วมบริจาคปัจจัย
ครั้งแรกมีความคิดว่าหุ่นยนต์จะสามารถดึงดูดเด็กๆ ให้เข้าหาวัดมากขึ้น แต่ความจริงแล้วผู้ใหญ่ให้ความสนใจไม่แพ้เด็ก ต่างถ่ายรูปไปอวดไปโชว์กันเป็นที่ระลึกจำนวนมาก
คำพูดหลวงพี่สงบ ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า "วิธีการทำให้คนเข้าถึงธรรมะมีหลากหลายวิธี พระส่วนใหญ่แสดงธรรมะโดยการเทศนา จำนวนไม่น้อยเลือกการบรรยายธรรม บางรูปเลือกการเขียน ส่วนตัวอาตมาเป็นพระนักทำที่ไม่เก่งเรื่องเทศน์ จึงสอดใส่ธรรมะเข้าไปในรูปปั้น และอาตมาไม่ได้หวังว่าคนจะจำคติธรรมจากทุกรูปปั้นไปได้ทั้งหมด เพียงแค่จำได้ 1 ประโยค แล้วเก็บไปคิด กลับไปทำ อาตมาก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว"
