svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

รวบนักตุ๋นเงินอ้างไปเคลียร์เรื่องรับมรดกจากศาลเหยื่อหลงชื่อหลายสิบรายสูญรวม20ล้าน

23 เมษายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6บก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รองผกก.6บก.ป. พ.ต.ท.วชิรศักดิ์ สายสุทธิ สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าหน้าที่กก.6 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายวิลัยศักดิ์ ปะระพิมพ์ อายุ 45 ปี ที่อยู่ตามบัตร 44/1 ม.6 ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ จ.200/60 ลง 11 เม.ย.60 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง โดยจับกุมได้หน้าบ้านเลขที่ 135/14 ม.28 หมู่บ้านพัชรียา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูก นายวิลัยศักดิ์ ออกอุบายหลอกลวงยืมเงินผู้เสียหายจำนวนหลายราย โดยอ้างว่าเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการขอรับคืนมรดกที่ถูก คสช.อายัดไว้ 65 ล้านบาทจากศาล ซึ่งหากได้รับมรดกแล้วจะนำเงินคืนให้ แต่ภายหลังกลับถูกบ่ายเบี่ยง จึงเข้าร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม โดยจากการสืบสวนพบว่ามีความผิดจริง มีผู้เสียหายหลงเชื่อหลายราย รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และผู้ต้องหาได้มากบดานหรือหนีความผิดที่ จ.ขอนแก่น จึงได้ดำเนินการจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ทั้งนี้สำหรับที่มาที่ไปของคดีนี้เริ่มจาก เมื่อปี 2558 มีผู้เสียหายในคดีนี้ซึ่งทำธุรกิจกาเม้นท์(เสื้อผ้า) ได้ไปพบ น.ส.สมรส จันทร์น้อย มีอาชีพเป็นช่างเย็บผ้าอิสระ เพื่อไปทวงถามเงินจำนวน 1 แสน บาท ที่น.ส.สมรสได้หยิบยืมไป แต่น.ส.สมรส แจ้งว่าต้องรอเงินจากหัวหน้าคือนายวิลัยศักดิ์ซึ่งอยู่ระหว่างรอรับเงินมรดก จำนวน 65 ล้านบาท ที่ถูกทาง คสช.อายัดไว้คืนจากศาล หากไม่เชื่อใจให้คุยกับนายวิลัยศักดิ์ได้เลย ก่อนแนะนำให้ผู้เสียหายรู้จักกับนายวิลัยศักดิ์ จากนั้นก็ถูกพูดจาหว่านล้อมหลอกลวงเรื่องขอรับมรดกคืนจากศาล ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ และยังขาดเงินอยู่จึงหว่านล้อมขอยืมเงินผู้เสียหายเพื่อไปดำเนินการเรื่องมรดกหลายครั้ง พร้อมกับบอกผู้เสียหายว่าหากได้รับมรดกคืนจะช่วยเหลือเรื่องธุรกิจของผู้เสียหายด้วย อีกทั้งยังอ้างว่ามีที่ดินอีกแปลงที่จ.เชียงใหม่ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งถูกอายัดไว้เช่นกัน
ภายหลังถูกหว่านล้อมผู้เสียหายเกิดหลงเชื่อ แล้วไปกู้เงินเพื่อโอนให้กับนายวิลัยศักดิ์ ระหว่างนั้นผู้เสียหายก็คอยทวงถามเรื่อยมาแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง และถูกหว่านล้อมว่าอยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องมรดกดังกล่าว ผู้เสียหายกลัวว่าจะไม้ได้เงินคืนจึงยอมโอนเงินช่วยค่าดำเนินการหลายครั้งรวมเป็นเงิน 5.4 ล้านบาท เมื่อทวงถามก็ยังถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอดจึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข ซึ่งต่อมาทราบภายหลังว่า น.ส.สมรส ก็ถูกหลอกช่วยค่าดำเนินการเรื่องมรดกดังกล่าวจนหมดตัว จึงแนะนำให้ผู้เสียหายนักธุรกิจกาเม้นท์รู้จักนายวิลัยศักดิ์ เพื่อหวังจะได้เงินคืนเช่นกันหากนายวิลัยศักดิ์ได้มรดกจริง
ขระเดียวกันก็มีผู้ที่ถูกหลอกลวงลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายสิบราย โดยที่ผู้เสียหายบางคนไม่เคยพบหน้านายวิลัยศักดิ์มาก่อน แต่หลงเชื่อจากคำบอกเล่าของผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่หวังว่าจะได้รับทรัพย์สินคืนจากนายวิลัยศักดิ์ที่อ้างว่าจะแบ่งให้ ทำให้เกิดความเสียหายคดีฉ้อโกงมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท โดยมี น.ส.สมรส จันทร์น้อย เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กับ บก.ป. ก่อนที่จะประสานให้ทาง กก.6บก.ป.ติดตามจับนายวิลัยศักดิ์มาดำเนินคดีดังกล่าว

logoline