svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ซูพีเรียเออาร์ที แจงคดีขนอสุจิ เตรียมแจ้งกลับทำความเสียหาย

21 เมษายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศูนย์ซูพีเรียเออาร์ที ชี้แจงไม่เกี่ยวข้องกรณีชายหิ้วถังสเปิร์มที่ถูกจับกุมที่ จ.หนองคาย ยืนยันเป็นเพียงสถานพยาบาลที่ให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก เตรียมแจ้งความกลับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหาย

จากกรณีนายนิธินนท์ ศรีธานิยานนท์ ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมือง หนองคาย จับกุม พร้อมของกลาง ถังไนโตรเจน 1 ถังภายในบรรจุหลอดใส่อสุจิ 6 หลอด ของบุคคล 2 คน ที่อ้างว่าเป็นของคนสัญชาติจีนและเวียดนาม โดยหลังจากจับกุม นายนิธินนท์ ให้การกับตำรวจว่า ได้รับขนอสุจิดังกล่าวให้กับคลินิก ผู้มีบุตรยาก 4 แห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งหนึ่งในนั้น มีการพาดพิงถึง ศูนย์ซูพีเรียเออาร์ที เพื่อนำไปส่งให้คลินิกในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และกรุงพนมเปญ กัมพูชา โดยรับค่าจ้างครั้งละ 5000 บาท

ล่าสุดวันที่ 21เม.ย.นายศรายุทธ อัสสมกร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์ซูพีเรียเออาร์ที ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากและวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนที่มีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย แถลงข่าวชี้แจงว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นทางศูนย์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่ถูกจับกุมแต่อย่างใด และไม่เคยมีการว่าจ้างผู้ถูกจับกุมให้ขนสเปิร์มไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปใช้ในการอุ้มบุญตามที่เป็นข่าว

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น มีคนไข้ทั้ง 2 รายซึ่งเป็นชาวเวียดนามและชาวจีน ได้เข้ามาขอคำปรึกษา และเก็บน้ำเชื้อไว้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาจริง ซึ่งเป็นเพียงขั้นตอนแรกๆเท่านั้น โดยเป็นหนึ่งในกระบวนการของการทำ ivf ในการมารับการรักษาผู้มีบุตรยากกับทางศูนย์ โดยปกติทางศูนย์มีบริการรับฝากสเปิร์ม รับฝากไข่อยู่แล้ว โดยทำหน้าที่คล้ายกับธนาคารที่รับฝากเงิน ซึ่งมีกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยผู้มารับบริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติถึงร้อยละ 80 คนไทยร้อยละ 20

โดยเมื่อวันที่ 17 เม.ย.และวันที่ 19 เม.ย.มีผู้รับมอบอำนาจซึ่งเป็นคนไทย ได้รับมอบอำนาจจากชาวเวียดนามและชาวจีน ที่มาฝากสเปิร์มไว้ก่อนหน้านี้ ให้ผู้รับมอบอำนาจให้ผู้ขนส่งเป็นผู้ดำเนินการในการมารับสเปร์มของคนไข้เองแทน และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้ตรวจสอบเอกสารทุกอย่างที่นำมา ไม่ว่าจะเป็นพาสปอร์ต ใบมอบฉันทะและหนังสือสัญญาฝากสเปิร์ม มาแสดงกับเจ้าหน้าที่และมีการเซ็นต์กำกับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทางศูนย์จึงได้ส่งมอบคืนให้กับคนไข้ตามความประสงค์ของคนไข้ ส่วนทางเจ้าของคนไข้จะนำไปทำอย่างไรต่อ ทางศูนย์ไม่มีอำนาจไปก้าวล่วงได้
ซึ่งหลังจากนี้ทางศูนย์จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายนิธินนท์ ที่มีการพูดพาดพิงถึงศูนย์ให้เกิดความเสียหาย เพราะทางศูนย์ได้มีการชี้แจงกับคนไข้ทุกคนว่า การย้ายสเปิร์มออกเป็นสิทธิ์ของคนไข้ แต่การนำเข้า-ส่งออกเสปริ์ม ไข่ ตัวอ่อน ออกนอกประเทศ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งทางศูนย์ยืนยันความบริสุทธิ์ว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปี ดำเนินธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบได้

logoline