svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี

07 มีนาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กองปราบเปิดปฏิบัติการไพร่ฟ้าหน้าใสสนธิกำลังตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี เจ้าหน้าที่ทหาร ใช้อำนาจ ม.44 ตรวจค้นบ้านนักการเมืองชื่อดัง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย และนายก อบต.น้ำรอบ หาหลักฐานเพิ่มตามคำให้การมือปืน พร้อมซักทอด สส.เพื่อไทย กำนันหญิงผู้จ้างวาน

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 7 มี.ค.2560 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. , พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวช รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. , พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี , พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4บก.ป , พ.อ.ประสาน แสงศิริรักษ์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.อุทัยธานี (ผบ.กกล.รส.จว.อุทัยธานี) สนธิกำลังตำรวจกองปราบปราม ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบริปูสะท้าน ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี และเจ้าหน้าที่ทหาร กกล.รส.จว.อุทัยธานี กว่า 200 นาย ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ใน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ
พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี

ประกอบด้วย 1. นายบุญยิ่ง จันทร อายุ 60 ปี 2. นายธเนตร วงษ์เนตร อายุ 22 ปี 3. นายมนัส หวางจีน อายุประมาณ 40 ปี โดยทั้งสามคนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุทัยธานี ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงในงานศพภายในบ้านเลขที่ 99/7 หมู่ 5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เป็นเหตุให้ นายจำเนียน มาหัวเขา นายลำดวน พันทะ นายบุญถิ่น กุลธานี เสียชีวิต และนายดุสิต ศรีวรรณ อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมยึดของกลางอาวุธปืนสงคราม เอ็ม16 ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนอีก 43 นัด ทั้งหมดจับได้ในที่พักและที่หลบซ่อนตัวใน ต.น้ำรอบ อ.ลายสัก โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและให้การพาดพิงไปยังผู้บงการว่ามีอดีตนักการเมืองระดับชาติ และนักการเมืองท้องถิ่นเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยประเด็นการก่อเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องการเมืองในจังหวัดและขัดผลประโยชน์

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ
พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี


ต่อมา พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวช รองผบช.ก. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4บก.ป พ.อ.ประสาน แสงศิริรักษ์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.อุทัยธานี (ผบ.กกล.รส.จว.อุทัยธานี) สนธิกำลังตำรวจกองปราบปราม ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบริปูสะท้าน ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี และทหารกกล.รส.จว.อุทัยธานี กว่า 200 นาย ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ขยายผลการจับกุมเปิดยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส ปูพรมตรวจค้น 22 จุด ในพื้นที่ ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ตามนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง หลังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเกิดเหตุอาชญากรรมบ่อยครั้ง รวมถึงคดีสำคัญ อย่างคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงกลางงานศพ

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ
พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี


โดยเป้าหมายสำคัญคือการเข้าตรวจค้นไร่อ้อยซากุระ เลขที่ 98 ม.5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก ซึ่งเป็นบ้านนายสุภาพ โต๋วสัจจา อายุ 67 ปี อดีต สส.พรรคเพื่อไทย โดยบ้านดังกล่าวตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณกว่า 5 ไร่ มีบ้านแยกย่อย 3 หลัง และโรงข้าวโพด รวมทั้งโรงรถ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวลูกซองจำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนสั้น 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนเบอร์ 12 และกระสุนปืนขนาดต่างๆเป็นจำนวนมาก โดยอาวุธปืนดังกล่าวมีนายสุเทพ โต๋วสัจจา เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ
พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี


ขณะที่กำลังอีกจุด ได้เข้าตรวจค้นฟาร์มควายซากุระ เลขที่ 98/2 ม.5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก ซึ่งบ้านนายณรงค์ศักดิ์ โต๋สัจจา อายุ 60 ปี เป็นนายก อบต.ตำบลน้ำรอบ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวไรเฟิลติดลำกล้อง จำนวน 1 กระบอก ปืนยาวออโตเมติก 1 กระบอก ปืนสั้น 3 กระบอก มีด 8 เล่ม และขวาน 2 เล่ม พร้อมเครื่องกระสุนขนาด 9 มม. กระสุนปืนเบอร์ 12 และกระสุนปืนขนาด 22 จำนวนหลายนัด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ยังได้ปูพรมตรวจค้นบ้านนักการเมืองท้องถิ่นในเขต อ.ลานสัก พร้อมยึดอาวุธปืนกว่า 35 กระบอก รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ รุ่นสแมช สีดำ. 1 คัน ไม่ติดหมายเลขทะเบียน

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ
พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี



ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส เป็นการขยายผลจากการคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสามที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ โดยให้การซักทอดว่ามีผู้บงการเป็นนักการเมืองระดับชาติและนักการเมืองท้องถิ่น โดยพฤติกรรมของขบวนการนี้คือ นายบุญยิ่ง จันทร เป็นคนรับงาน 2. นายธเนตร วงษ์เนตร เป็นมือปืน 3. นายมนัส หวางจีน เป็นผู้จัดหาให้ที่พัก และนายสราวุฒิ เรืองดาดะ เป็นคนขี่จยยซูซูกิ รุ่นสแมช สีดำ.ก่อเหตุ ซึ่งนายบุญยิ่ง เป็นผู้รับงานมาจากนักการเมืองระดับชาติและนักการเมืองท้องถิ่น โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 3 หมื่นบาท แต่ยังจ่ายเงินไม่ครบจ่ายเพียงเคสละ 1 หมื่นบาท

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ
พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี


อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวช รองผบช.ก. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4บก.ป และชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นคำให้การของผู้ต้องหา และหลักฐานอื่นๆที่เชื่อมโยง ขออำนาจศาลจังหวัดอุทัยธานีออกหมายจับผู้บงการ 2 ราย ในฐานความผิดข้อหาเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นโดยการใช้การจ้างวาน หรือยุยงส่งเสริมหรือกระทำการด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ
พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี


โดยรายแรกคือนายสุภาพ โต๋วสัจจา อดีตสส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 จ.อุทัยธานี หัวหน้านักการเมืองกลุ่มซากุระ หลังแนวทางการสืบสวนและคำให้การของผู้ต้องหาซักทอดว่า เป็นผู้บงการสังหารสารวัตรกำนันรายหนึ่งในงานศพ แต่ปรากฏว่ามีผู้โดนลูกหลงเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย โดยปมสังหารมาจากความขัดแย้งในเรื่องการเมือง และขัดแย้งเรื่องการทำเหมืองแร่และสัมปทานเหมืองแร่

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ
พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี


รายที่สองคือ น.ส.เยาวพร รัตนมณีพันธ์ กำนันตำบลลานสัก หลังแนวทางการสืบสวนและคำให้การของผู้ต้องหาซักทอดว่าเป็นผู้บงการสังหารนายบุญจันทร์ ชาลีนิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ปีที่ผ่านมา โดยปมสังหารมาจากการเมืองท้องถิ่น รวมทั้งออกหมายจับนายสมนึก ปานศิลา หรือนายแก่ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดหาขายอาวุธปืนในการก่อเหตุ ในฐานความผิดมีและครอบครองอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

จ่อออกหมายจับ สส.เพื่อไทย แกนนำซากุระ
พร้อมกำนันหญิง บงการฆ่า 2 คดี


ด้านพล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการขยายผลการจับกุมคดีสำคัญ โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 22 จุด โดยทำการตรวจยึดอาวุธปืนกว่า 35 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก โดยหลังจากนี้ได้ประสานให้ทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ตรวจสอบอาวุธปืนทั้งหมดว่าเคยนำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่

logoline