ช่วยเหลือเหยื่อน้ำท่วม ยังไม่ทั่วถึง

ภายหลังจากที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปีใหม่ 2560 ต่อเนื่องมาจนถึงกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายทั้งจังหวัดกว่าพันล้านบาท โดยหลังน้ำลดการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูของภาครัฐเริ่มทยอยทำอย่างต่อเนื่องแต่ส่วนใหญ่จะยังไม่ทั่วถึงมากนัก เพราะต้องรองบประมาณ ล่าสุดหลายหน่วยงานภาครัฐเร่งประชุมหาแนวทางช่วยเหลือร่วมกับภาคเอกชนเพื่อวางแผนอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน ขณะที่ในส่วนของความเสียหายในส่วนของสถานศึกษาโดยเฉพาะโรงเรียนกว่า 300 โรงเสียหายโดยมีจำนวน 50 โรงที่เสียหายหนักรวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 50 ล้านบาท แต่การฟื้นฟูยังไม่เป็นรูปธรรมมากนัก ซึ่งทางผู้บริหารของแต่ละโรงเรียนต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้นักเรียนได้เรียนเพิ่มเติมและสอบทันในช่วงปิดภาคเรียนที่จะถึงนี้
โดยส่วนที่เป็นปัญหาหนักคือโรงเรียนตามพื้นที่เสี่ยงที่เป็นอาคารชั้นเดียวจะประสบกับภาวะน้ำท่วมเป็นประจำ อุปกรณ์การเรียนการสอนเสียหายทุกครั้งที่มีน้ำท่วมหนัก ทางผู้บริหารส่วนใหญ่ต้องการอาคาร 2 ชั้น เพื่อป้องกันอุปกรณ์เสียหาย หากเกิดน้ำป่าหรือน้ำท่วมหนัก จะได้ขนย้ายอุปกรณ์การเรียนการสอนได้ทันและปลอดภัย และในช่วงบ่ายวันนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะทำพิธีส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรกลหนักกลับต้นสังกัดหลังจากที่มาประจำการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเฉพาะกิจในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และหลายจังหวัดในภาคใต้ ร่วม 2 เดือนเต็ม