svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

คณะพระสงฆ์ บุกศาลากลาง เรียกร้องยกเลิก ม.44

24 กุมภาพันธ์ 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่นำพระสงฆ์และสามเณรยื่นหนังสือเรียกร้องนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยกเลิกการบังคับใช้ ม.44 กับวัดพระธรรมกาย เหตุกระทบความรู้สึกชาวพุทธ ขีดเส้นจะกลับมารับฟังคำตอบสัปดาห์หน้า ด้านปธ.สหพันธ์ปลัดอำเภอ เดินทางเข้าพบดีเอสไอ ขอให้ตรวจสอบสงฆ์เครือข่ายธรรมกายอาจแฝงต่างด้าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้(24 ก.พ.60) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พระสงฆ์และสามเณรราว 200 รูปนำโดยพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน(พระอารามหลวง) ตำบลท่าตอน อ.ท่าตอน จ.เชียงใหม่ และรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมประชาชนผู้สนับสนุนอีกจำนวนหนึ่ง รวมตัวเข้ายื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้สั่งการยกเลิกการบังคับใช้ ม.44 ในการดำเนินการกรณีวัดพระธรรมกาย เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้นับถือศาสนาพุทธและก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดีในสายตาของอารยะชน รวมทั้งขอให้มีการใช้วิธีการที่ละมุนละม่อมมากกว่านี้แทน โดยนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว ซึ่งหลังจากนั้นทางกลุ่มพระสงฆ์ได้เดินทางกลับ พร้อมระบุว่าจะเดินทางกลับมารับฟังคำตอบอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
ทางด้าน นายประพันธ์ คำจ้อย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่าเบื้องต้นหลังจากที่ได้รับหนังสือดังกล่าวจากทางกลุ่มพระสงฆ์แล้วจะประสานดำเนินการให้ตามขั้นตอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนผลตอบรับจะเป็นเช่นไรยังไม่สามารถบอกได้ ซึ่งหากทางกลุ่มพระสงฆ์จะกลับมารับฟังคำตอบอีกครั้งในสัปดาห์หน้าก็ย่อมสามารถทำได้ สำหรับความเคลื่อนไหวของวัดในจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นเครือข่ายของวัดพระธรรมกายนั้น วัดที่เป็นเครือข่ายจะมีวัดหลักๆ อยู่ที่อำเภอสันทราย และอำเภอฮอด ซึ่งจากการติดตามตรวจไม่พบว่ามีความเคลื่อนไหวใดๆ ที่ผิดปกติ มีพระสงฆ์ปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (24 ก.พ.60) ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สะอาด สุนทร ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ เพื่อยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้ดำเนินการตรวจสอบพระภิกษุที่อยู่ในวัดธรรมกาย เพราะอาจมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยแฝงอยู่ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบกรณีที่พระภิกษุมีความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ ที่วัดธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อยู่ในขณะนี้
ทางด้าน นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎข่าวตามสื่อมวลชนและโซเชียลกรณีที่เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ณ วัดธรรมกาย โดยปรากฎภาพของพระภิกษุมีความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีข้อสังเกตที่สำคัญของบุคคลที่เป็นพระภิกษุในวัดพระธรรมกาย ซึ่งอาจมีคนต่างด้าว ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย อาจเป็นคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ไม่มีสถานะทางทะเบียน ไม่มีบัตรประชาชน เข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือผู้ที่เป็นพระภิกษุ ที่ได้รับการพิจารณาได้สัญชาติไทย ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508
และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7 (ทวิ) หากกระทำการใดๆ อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือขัดต่อประโยชน์ของรัฐ กระทำการใดๆ อันเป็นการขัดต่อความสงบหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อาจถูกถอนสัญชาติได้ตาม มาตรา 17 (3) (4) ทั้งนี้หากผู้ที่เป็นภิกษุเป็นผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย จะถือว่ามีความผิด รวมถึงผู้ที่อุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าว ให้เข้ามาในราชอาราจักร ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 เพราะผู้ที่บวชเป็นภิกษุถึงไม่มีสัญชาติไทย แต่อาจได้รับใบสุทธิได้ ดังนั้นจึงอยากให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการตรวจสอบให้ดีเพราะอาจจะมีกลุ่มบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยแฝงอยู่
ด้าน พ.ต.ท.สะอาด สุนทร ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือกล่าว การรับหนังสือในครั้งนี้ว่า สำหรับการดำเนินการหลังจากนี้ทางตนก็จะได้นำเรื่องดังกล่าวรายงานให้กับทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทราบเรื่องโดยเร็วเพื่อให้เป็นไปตามที่ทางประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ได้ยืนหนังสือและข้อเสนอแนะมา โดยทางกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับเรื่องปัญหาบุคคลต่างด้าว หรือบุคคลไม่มีสัญชาติ หรือปัญหาคนหลบหนีเข้าเมือง โดยทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก้จะมีการดำเนินการตรวจสอบและติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ส่วนในเรื่องที่ทางประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลมานั้นทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากถือเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ
"ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบวัดสาขา รวมทั้งสำนักสงฆ์ สถานปฏิบัติธรรมของวัดธรรมกายในจังหวัดเชียงใหม่ ไม่พบมีความเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งตามปกติวัดเหล่านี้จะมีพระสงฆ์จำวัดอยู่ไม่มากเพราะจะเป็นสถานที่ ที่มีผู้เข้ามาปฏิบัติธรรมชั่วคราวและก็กลับไป แต่ในระยะนี้ไม่มีผู้เข้ามาปฏิบัติธรรมเลย ทั้งนี้ได้มีการเข้าไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ เป็นปกติอยู่แล้วซึ่งในส่วนของศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือนั้น รับผิดชอบ 17 จังหวัดภาคเหนือ เช่นในเรื่องการตรวจสอบวัดบุกรุกพื้นที่ป่า ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นวัดสาขาของวัดธรรมกาย แต่จะตรวจสอบทุกวัดอย่างเท่าเทียมกัน"พ.ต.ท.สะอาด กล่าว

logoline