โดย พันเอก ชยพณัฐ วิริรัตน์ ผู้อำนวยการกองผลิตสื่อโสตทันศ์ กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะผู้ควบคุมและดูแลการปฏิบัติ เผยว่า ชุดช่างภาพสนามเกิดขึ้นครั้งแรก ปี 2553 มีเป้าหมายเพื่อบูรณาการจัดทำงานภาพ และนำเสนอภาพต่างๆ ของกองทัพไทย มีการฝึกและศึกษาเทคนิคการถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว การส่งข้อมูลเร่งด่วนเป็นประจำทุกปี
จนปัจจุบันมีผลผลิตเป็นช่างภาพสนามรวม 24 นาย ซึ่งเป็นกำลังพลจากกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ถือได้ว่าเป็นฟันเฟืองที่สนองตอบต่อผู้บังคับบัญชาได้ทันเวลา ทั้งภารกิจในประเทศหรือนอกประเทศ โดยเข้าประจำการที่กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย
จ่าเอก ณัฐภูมิ ผู้ภักดี สังกัดกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เป็นหนึ่งใน 24 ชีวิตของทีมคอมแบท คาเมร่า บอกว่า
"กว่าจะมีความชำนาญจนได้เข้ามาประจำทีมคอมแบท คาเมร่านั้น ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้มีทักษะเต็มร้อย สิ่งสำคัญคือต้องหมั่นทบทวนรายละเอียดของการฝึกคอบร้าโกลด์ เพราะแต่ละการฝึกนั้นแตกต่างกัน ถ้าเราพลาดจุดไหนไป มันไม่มีโอกาสที่จะขอกลับไปถ่ายภาพแก้ไขอีกรอบได้ ดังนั้นต้องมีการประสานงานที่ดีกับทุกคนในทีม เพราะหัวใจสำคัญ คือ "ทีม" ลำพังช่างภาพคนเดียวไม่มีทางที่จะวิ่งไปถ่ายภาพทุกฐานฝึกได้ทัน
ถ้าเรามีเวลามากพอจะได้มุมกล้องที่ดีและปลอดภัย ผลงานภาพที่ออกมานั้นก็ดีและรู้สึกหายเหนื่อย การเป็นช่างภาพสนาม เหมือนได้อยู่ในสนามรบ ครั้งหนึ่งเคยได้ขึ้นบนรถถัง stingray ไม่ใช่อยู่ในรถถังแต่อยู่ด้านบนของตัวรถ ขณะที่กำลังขับเคลื่อนยิงปืน พื้นที่บนตัวรถก็มีที่เกาะเพียงน้อยนิด บวกกับแรงอัดของอากาศที่กระแทกมา ถือเป็นเรื่องประทับใจไม่มีวันลืม"
ด้าน จ่าสิบเอก ณัฐวุฒิ โตประดิษฐ์ ตำแหน่ง ประจำกรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย บอกว่า
"ได้เข้าร่วมฝึกคอบบร้าโกลด์ มาตั้งแต่ปี 2008-2017 รวม 9 ปี แต่ภารกิจหลักของปีนี้ ได้รับหน้าที่เป็นช่างภาพสนาม คอยถ่ายภาพทหารฝ่ายกองทัพไทย เพื่อถ่ายทอดให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่าในการฝึกครั้งนี้เขาฝึกอะไรกันบ้าง เพราะประชาชนทั่วไปอาจจะเข้าใจว่า การฝึกคงจะมีแต่การรบเพียงอย่างเดียว ทุกครั้งที่ได้เข้าร่วมการปฎิบัติหน้าที่ในการฝึกคอบร้าโกลด์ จะรู้สึกดีที่ได้ติดธงชาติไทย เดินไปไหนมาไหนอย่างภาคภูมิใจ
"เพราะไม่ใช่ทหารไทยทุกคน ที่จะได้เข้าร่วมการฝึกคอบบร้าโกลด์ จึงต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี พยายามแนะนำให้เพื่อนทหารจากมิตรประเทศที่เข้าร่วมฝึกได้รู้จัก อาหารไทย วัฒนธรรมไทย ให้สมกับคำที่ว่า "thailand land of smile" เพราะเมื่อการฝึกสิ้นสุดลง ก็จะยังคงเหลือความประทับใจ ที่เราได้มอบให้กับเพื่อนมิตรประเทศ พวกเขาก็จะจดจำและบอกต่อกับเพื่อนของพวกเขา ว่าเมืองไทยนั้นมีอะไรดีและน่าสนใจ"
จากนี้ต่อไป คำว่าทหารไทยคงไม่ใช่แค่แบกปืนยืนเฝ้าเป็นรั้วของชาติ เพราะมีภารกิจมากมายที่พลเรือนคนไทยและต่างชาติไม่เคยรับรู้ ว่าทหารชุดสีเขียวลายพรางได้ทำอะไรมากกว่าปกป้องประเทศ ถ้าได้ยินเสียงชัตเตอร์กดรัวๆๆ ข้างๆหู เป็นจังหวะเดียวที่เห็นชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบทหาร ในมือถือกล้องแทนการถือปืน รับรู้ได้ว่า "พวกเขา คือ คอมแบท คาเมร่า" แห่งกองทัพไทย