น.ส.จิราพร กล่าวว่าตน และน.ส.นันทิยา เดินทางมาหาพี่ที่ขายของอยู่ในห้างสรรพสินค้าแฮปปี้แลนด์ จนถึงเวลาประมาณ 00.40 น. ได้เดินออกมาขึ้นรถโดยมีน.ส.นันทิยา เป็นคนขับ เมื่อขับมาถึงตู้เก็บค่าบริการลานจอดรถน.ส.สุพัตรา บุญรอด อายุ 25 ปี เป็นพนักงานเก็บเงิน ได้แจ้งค่าบริการจอดรถ 50 บาท ในขณะที่ตนกำลังนำเงินออกจากกระเป๋า น.ส.นันทิยา ได้นำถุงขยะเป็นไม้เสียบมะยมเชื่อมยื่นฝากให้น.ส.สุพัตรา นำไปทิ้งน.ส.สุพัตรา ก็รับไปแต่นายชลอ ทองแก้ว อายุ 27 ปี สามีของน.ส.สุพัตรา ซึ่งนั่งอยู่ในป้อมเกิดความไม่พอใจหาว่าดูถูก ก่อนจะปาถุงขยะกลับเข้ามาในรถจึงเกิดปากเสียงกันขึ้นตนพยายามห้าม และส่งเงินค่าจอดรถให้น.ส.สุพัตรา เพื่อจะรีบออกไปจากตรงนั้น แต่นายชลอ ยังด่าทอพวกตนเป็นภาษาใต้ฟังไม่รู้เรื่องจากนั้นก็เดินมาเปิดประตูรถทางด้านทางฝั่งคนขับเรียกให้ลงมาคุยกัน น.ส.นันทิยา จึงลงไปคุยและมีปากเสียงกันต่อกระทั่งนายชลอ สะบัดมือไปโดนปากของน.ส.นันทิยา 1 ครั้ง ตนจึงเข้าไปห้าม และขอให้ไปเรียกหัวหน้ามาคุยกัน จากนั้นตนและน.ส.นันทิยา จึงเดินไปขึ้นรถ และบอกให้เปิดไม้กั้นเพื่อจะขับกลับเข้ามาใหม่เนื่องจากมีรถจอดต่อรอออกจากลานจอดหลายคัน เมื่อขับรถกลับเข้ามาตน และน.ส.นันทิยา ได้ออกมายืนรอที่ข้างรถกลับมีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมชุดซาฟารีสีดำคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของนายชลอ และน่าจะเป็นการ์ดของผับแห่งหนึ่งประมาณ 3-4 คนเดินเข้ามา จึงได้พูดคุยแต่ก็เกิดปากเสียงกันอีกครั้ง
ฝั่งชายฉกรรจ์จึงได้ลงมือทำร้ายน.ส.นันทิยา ตนพยายามห้ามแต่กับถูกน.ส.สุพัตรา กระชากผมล้มไปนั่งกองกับพื้นก่อนจะถูกเตะและกระทืบที่บริเวณหัว จนตนไม่มีแรงสู้ กระทั่งทั้งหมดแยกย้ายกันกลับไป ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความที่สน.ลาดพร้าวเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวคู่กรณีมาสอบปากคำแล้วตั้งแต่เมื่อคืนเกิดเหตุ แต่ยังเรียกเข้ามาไม่ครบ ส่วนทางด้านผู้ได้รับบาดเจ็บได้ให้ไปตรวจร่างกายที่รพ.เวชธานี แล้วเพื่อให้แพทย์ระบุอาการมาประกอบสำนวน และจะเรียกทั้ง2ฝ่ายมาไกล่เกลี่ยและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์