หนุ่ม 18 รับกุเรื่องปล้น เปเงิน 8 หมื่น ใช้ส่วนตัว พี่สาวเสียใจ ส่งเรียนอย่างดี แม้ไม่ใช่น้องแท้ๆ

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ม.ค. เวลาประมาณ 23.00 น. นายศราวุฒิ ได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ว่าถูกคนร้าย 4 คน ลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจปล้นทรัพย์ ขณะที่กำลังฝากเงินที่ตู้ฝากเงินธนาคารกสิกรไทย สาขาหลังตลาดถนอมมิตร แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบเหตุดังกล่าว จนกระทั่งทราบว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเป็นความจริง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ รปภ. บริเวณที่เกิดเหตุไม่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ไม่พบเหตุการณ์ดังกล่าว และตรวจสอบตู้ฝากเงินพบว่าไม่สามารถทำธุรกรรมการฝากเงินได้ เนื่องจากตู้จะปิดให้บริการฝากเงินหลังเวลา 22.00 น. ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริง จึงได้ทำการสอบสวนนายศราวุฒิอีกครั้ง และยอมรับว่าได้แต่งเรื่องขึ้นมา เนื่องจากได้นำเงิน จำนวน 80,300 บาท ที่พี่ชายและพี่สะใภ้ให้มา นำไปใช้จ่ายส่วนตัวจนหมด กลัวโดนด่าจึงต้องแจ้งความเท็จ


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด" ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินการคดีตามกฎหมายต่อไป


ขณะที่น.ส.เสาวลักษณ์ มหายศปัญญา หรือส้มจี๊ด อายุ 26 ปี อาชีพพริตตี้ และทำธุรกิจส่วนตัว พี่สะใภ้ เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. เวลาประมาน 22.30 น. ตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากทำงาน และเจอนายศราวุฒิ กำลังจะไปซื้อราดหน้า ด้วยความไว้ใจจึงให้น้องนำเงิน ที่จะใช้ซื้อรถตู้ จำนวน 80,300 บ. ไปเข้าตู้ฝากเงินอัตโนมัติด้วย เพราะตนกลัวว่าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวไปเองจะอันตราย เมื่อเวลาผ่านไป 40 นาที น้องก็กลับมาบ้าน ด้วยอาการตื่นตกใจ และบอกว่าถูกปล้นด้วยกลุ่มคนที่แต่งกาย มีคำว่า police ติดหลังเสื้อ จึงถามย้ำว่าเรื่องจริงหรือไม่ ไปแจ้งความนะ ถ้าไม่จริงจะถูกลงโทษนะ น้องก็ยังยืนยันว่าถูกปล้นจริง จึงตัดสินใจพาน้องมาแจ้งความ


"รู้สึกเสียใจมากที่น้องทำอย่างนั้น ฉันและแฟนหนุ่มเก็บมาเลี้ยง เนื่องจากพ่อเขาเสียชีวิต ส่วนแม่ก็แยกไปมีครอบครัวใหม่ ซึ่งนายศราวุฒิเป็นญาติทางฝั่งสามี มีศักดิ์เป็นน้องสามี และเลี้ยงดูมาอย่างดีตั้งแต่เล็ก ส่งเสียเล่าเรียนอยากได้อะไรก็ซื้อให้ ต่อจากนี้ต้องมีการพูดคุยกันว่าอนาคตจะเลี้ยงต่อไหม" น.ส.เสาวลักษณ์ ระบุ