พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 30 ต.ค.2559 ได้เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda pcx 150 สีขาว ทะเบียน 1 กฐ-8950 กรุงเทพฯ บริเวณบ้านเลขที่ 215/77 บริเวณท้ายซอย 9 ถนนประชาราษฎร์ 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2559 เกิดเหตุคนร้ายเย้าไปโจรกรรมรถจักรยานยนต์ บริเวณบ้านเลขที่ 215/45 ซอย11 ถนนประชาราษฎร์สาย1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ผู้เสียหายคือนายชานนท์ โกแสนตอ จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายมีแผนประทุษกรรมคล้ายคลึงกัน โดนคนร้ายซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มีกระเป๋าด้านข้างคล้ายรถส่งหนังสือพิมพ์ทั้งคู่ใส่หมวกกันน็อตเต็มใบ เมื่อโจรกรรมแล้วจะขับรถหลบหนีตามกันไปเก็บไว้ที่บ้านพัก เพื่อเปลี่ยนเบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์ที่ได้จากการก่อเหตุในพื้นที่ สน.บางโพ และอีกหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ
นายจริน ให้การรับสารภาพว่า ได้โจรกรรมรถจักรยานยนต์ และนำส่งไปขายที่ประเทศพม่าได้คันละ 12,000 บาท โดยทีมโจรกรรมรถได้คันละประมาณ 8,000-9,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถที่โจรกรรมมาได้ โดยนายจรินรับสารภาพว่าได้ทำมา 1 ปีครึ่ง ตนเป็นผู้ประสานงาน เมื่อได้รถมาก็จะโทรบอกนายนิติพล มาเอารถจักรยานยนต์ไปเปลี่ยนเบ้าที่บ้านพัก และทำการปลอมแปลงเอกสาร ก่อนที่จะนำรถไปส่งที่ขนส่งพุทธมณฑลสาย 2 เพื่อส่งต่อไปยังอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อีกส่วนก็จะส่งต่อไปยังจังหวัดระนอง ก่อนนำส่งต่อไปยังประเทศพม่า ซึ่งในกระบวนการนี้จะมีนายมาโนช หรือบี อินทรประเสริฐ เป็นผู้ดำเนินการโอนเงินให้นายจริน
สำหรับนายวิทยา จะเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คู่กับนายสมเดช โดยจะใช้วิธีอำพลางในการโจรกรรมในแต่ละครั้ง ซึ่งจะใช้กระเป๋าหนังห้อยข้างสำหรับใส่หนังสือพิมพ์ซ่อนอุปกรณ์ใช้สำหรับงัดรถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะเป็นท่อกลม รูปตัวที และรูปตัวแอล ตระเวนโจรกรรมรถจักรยานยนต์ โดยจะสามารถปลดล็อกคอรถจักรยานยนต์ได้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นในเวลาตี3 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับเด็กส่งหนังสือพิมพ์ออกทำงาน ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ติดใจสงสัยแต่อย่างใด โดยการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ จะเลือกเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า และใช้วิธีการสังเกตว่ามีการล็อคดิสเบรคไว้หรือไม่ หากมีการล็อคที่แน่หนา ก็เปลี่ยนไปเลือกคันอื่นแทน และหากพบว่าแค่ล็อคคอรถไว้เท่านั้น ก็จะใช้อุปกรณ์ในการงัดใส่ไปที่รูกุญแจ แล้วงัดตัวล็อคมันก็จะคลาย และก็สตาร์ทรถขี่ประคองกันไปกับรถที่อำพลางส่งหนังสือพิมพ์ โดยนายวิทยา เคยโจรกรรมมาแล้วประมาณ 300 คัน
ซึ่งก่อนหน้านี้นายวิทยา เคยทำงานในบ่อนมาก่อน ก็จะมีรถมาจำนำที่บ่อน และมีการทิ้งรถเอาไว้เพื่อส่งไปขายต่อที่อำเภอแม่สอด และจังหวัดระนอง เมื่อส่งต่อเนื่อง ทางฝั่งพม่าก็ติดต่อมาขอซื้อเพิ่ม จึงได้ตั้งแก๊งลักรถจักรยานยนต์ขึ้นมา 3ชุด ล่าสุดได้ถูกจับกุมไปแล้ว 2ชุด ซึ่งนายวิโรจน์ หรือโรจน์ สายบุตร อายุ 36 ปี และนายเกียรติ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) อายุประมาณ 30ปี อยู่ในระหว่างหลบหนี
พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และควบคุมตัว พร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพ ส่วนนายจรัล หรือรัน พบบ่อเงิน และนายสามารถ หรือมาด พบบ่อเงิน นำตัวไปควบคุมที่ สภ.โคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป