โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องราวของคุณครูสุรีพรคุณครูผู้สอนและดูแลนักเรียนคนหนึ่งด้วยหัวใจของความเป็นครู
ครูสุรีพร ได้รับมอบหมายจาก ผอ. ให้ช่วยดูแลเด็กนักเรียนคนหนึ่งเด็กคนนั้นชื่อ เชาว์ เชาว์ เป็นเด็กพิเศษ เป็นเด็กไม่พูด มีโลกส่วนตัวของตัวเอง ไม่สุงสิงกับใครเวลาอยู่ในห้องเรียนมักจะนั่งมองออกไปที่สิ่งของที่มีการเคลื่อนไหว คุณครู สุรีพรสังเกตเห็นพฤติกรรมนั้น จึงเริ่มศึกษาเรื่องของเด็กพิเศษจนได้รู้ว่าจะมีวิธีการสอนและเข้าถึงเด็กแบบเชาว์ได้อย่างไรคุณครูทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจที่จะทำให้เชาว์สามารถเรียนได้ทันกับเพื่อนๆ และใช้ชีวิตได้แบบนักเรียนทั่วไปวันเวลาผ่านไปคุณครูกับเชาว์ เริ่มผูกพันกันมากขึ้น ซึ่งเชาว์ก็เริ่มเปิดใจกับคุณครูด้วยเช่นกันอยู่มาวันหนึ่งเชาว์มีเรื่องทะเลาะกับเพื่อน ทำให้ผู้ปกครองหลายคนไม่พอใจพร้อมเรียกร้องให้ไล่เชาว์ออกจากโรงเรียน
แต่คุณครูก็ได้ทำให้ทุกคนเห็นว่า เชาว์ เป็นเด็กที่มีความฉลาด มีความสามารถ และพร้อมที่จะอยู่ร่วมกับทุกคนในโรงเรียนได้เหมือนกับคนปกติได้หากสอนและดูแลเชาว์อย่างใกล้ชิด
และความตั้งใจของครูก็สำเร็จจากความเสียสละทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อดูแลเด็กคนหนึ่ง นั่นทำให้เห็นว่าการสอนบางครั้งก็อาจไม่ได้สอนกันด้วยตำราแต่สอนกันด้วยหัวใจ "หัวใจของความเป็นครู"
ปัจจุบันเชาว์ ก็กลายเป็นครูเชาว์ ตามความตั้งใจของเขาตั้งแต่วัยเด็ก
"เซเว่นอีเลฟเว่นขอเชิดชูครูผู้สอนด้วยหัวใจ"
7-Eleven จัดทำภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ถือเป็นกระจกอีกบานที่สะท้อนให้เห็นอีกหนึ่งตัวอย่างแม่พิมพ์ของชาติหรือ "ครู" ที่มีความตั้งใจ ความรักและความเสียสละให้แก่ลูกศิษย์อันเป็นที่รักของท่าน แม้ต้องเสียสละมากมายเพียงใดขอเพียงทำให้ลูกศิษย์ของเขาสามารถเติบโตและใช้ชีวิตในสังคมได้เฉกเช่นคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
ดั่งคำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่ครูอาวุโส เมื่อวันที่ 9ตุลาคม 2516 ความว่า
"งานของครูเป็นงานพิเศษผิดแปลกกว่างานอื่นๆ กล่าวในแง่หนึ่งที่สำคัญก็คือว่าครูจะหวังผลตอบแทนเป็นยศศักดิ์ความร่ำรวยหรือประโยชน์ทางวัตถุเป็นที่ตั้งไม่ได้ผลได้ส่วนสำคัญจะเป็นผลทางใจ ซึ่งผู้เป็นครูแท้ก็พึงใจและภูมิใจอยู่แล้ว"
ร่วมสัมผัสความรัก ความเสียสละของครูไปพร้อมๆ กัน ชมคลิป >>