svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

9 จังหวัดใต้จมบาดาล ตาย 6 ราย 23 เส้นทางสัญจรอัมพาต

06 มกราคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

6 ม.ค.60 -"ปภ."เผย 9 จว.ใต้ระทมจมบาดาล ตาย 6 ราย ฝนกระหน่ำซ้ำในพื้นที่ "พัทลุง- สงขลา-ตรัง-สุราษฎร์ฯ-เมืองคอน-ชุมพร" ขณะที่ "3 จชต." คลี่คลาย คมนาคม 23 เส้นทางสัญจรอัมพาต กำชับเกาะติด 24 ชั่วโมง

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวสรุปสถานการณ์อุทกภัย วาตภัยและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ประจำวันที่ 6 ม.ค. ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึงปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 9 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร 68 อำเภอ 381 ตำบล 2,507 หมู่บ้าน โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหมด 6 ราย แบ่งเป็น จ.สงขลา 2 ราย นราธิวาส 2 ราย นครศรีธรรมราช 2 ราย โดย จ.พัทลุง น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอกงหรา อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอควนขนุน อำเภอปากพะยูน อำเภอศรีบรรพต อำเภอเขาชัยสน อำเภอป่าบอน อำเภอบางแก้ว อำเภอป่าพะยอม และอำเภอตะโหมด รวม 52 ตำบล 507 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,327 ครัวเรือน จ.นราธิวาส น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอระแงะ อำเภอรือเสาะ อำเภอศรีสาคร อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอสุไหงโก ลก อำเภอสุไหงปาดี อำเภอจะแนะ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอยี่งอ อำเภอตากใบ และอำเภอบาเจาะ รวม 75 ตำบล 502 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,535 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จ.ยะลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน อำเภอยะหา และอำเภอบันนังสตา รวม 35 ตำบล 159 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,986 ครัวเรือน 16,654 คน ด้าน จ.สงขลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอนาหม่อม อำเภอสะเดา อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอควนเนียง อำเภอรัตภูมิ และอำเภอคลองหอยโข่ง รวม 29 ตำบล 189 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,793 ครัวเรือน อพยพ 52 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
ขณะที่ จ.ปัตตานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอยะรัง อำเภอกะพ้อ อำเภอหนองจิก อำเภอเมืองปัตตานี และอำเภอสายบุรี รวม 36 ตำบล 111 หมู่บ้าน ส่วนจ.ตรัง น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาโยง อำเภอรัษฎา อำเภอเมืองตรัง และอำเภอห้วยยอด รวม 21 ตำบล 185 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,824 ครัวเรือน จ.สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอบ้านนาสาร อำเภอดอนสัก อำเภอท่าชนะ อำเภอเกาะสมุย อำเภอไชยา และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี รวม 20 ตำบล 116 หมู่บ้าน จ.นครศรีธรรมราช น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 17 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอสิชล อำเภอทุ่งสง อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอท่าศาลา อำเภอนาบอน อำเภอพิปูน อำเภอช้างกลาง อำเภอฉวาง อำเภอนบพิตำ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอขนอม อำเภอพรหมคีรี และอำเภอลานสกา รวม 98 ตำบล 626 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 72,337 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และจ.ชุมพร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งตะโก อำเภอพะโต๊ะ อำเภอหลังสวน และอำเภอละแม รวม 11 ตำบล 91 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 500 ครัวเรือน โดยในภาพรวมสถานการณ์ยังมีฝนตกในพื้นที่ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น มีเพียง จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี ที่ฝนเริ่มหยุดตก ระดับน้ำทรงตัว และลดลง
"จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณเกาะสุมาตราและทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จนถึงวันที่ 8 มกราคมนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 4 เมตร โดยเฉพาะพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง จึงได้ประสานจังหวัดดังกล่าวและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมรับมืออุทกภัยและดินถล่ม โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่เคยได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนสะสม เน้นย้ำผู้ประกอบอาชีพประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง" อธิบดีปภ. กล่าว
อธิบดีปภ. ยังกล่าวถึงเส้นทางคมนาคมที่ไม่สามารถสัญจรได้ว่า มีน้ำท่วมพื้นที่ 6 จังหวัด 44 สายทาง รวม 73 แห่งผ่านได้ 50 แห่ง ผ่านไม่ได้ 23 แห่ง อาทิ จ.ยะลา ทล.4060 กะรุบี ต๊ะโล๊ะหะลอ ท้องที่ อ.รามัน กม.27 ระดับน้ำ 10 ซม. ไม่มีสายทางทดแทน ,จ.ตรัง ทล.4236 ถนนแพรก ลํานาว ท้องที่ อ.ห้วยยอดกม.11 ระดับน้ำสูง 110 ซม. ไม่มีสายทางทดแทน ,จ.นครศรีธรรมราช ทล.41 ร่อนพิบูลย์ - ไม้เสียบ ท้องที่อ.ชะอวดกม.334-336 ระดับน้ำสูง 100 ซม. ไม่มีสายทางทดแทน ,จ.สุราษฎร์ธานีทล.41 สวนสมบูรณ์ ป่าเว ท้องที่อ.ท่าชนะ กม.109-110 ระดับน้ำสูง 40 ซม.ไม่มีสายทางทดแทน จ.ชุมพร ทล.4006 ราชกรูด วังตะกอ ท้องที่ อ.พะโต๊ะ กม.29-30 ดินสไลด์ปิดเส้นทาง ไม่มีเส้นทางเลี่ยง สำหรับการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทยจะเปิดเดินรถในเส้นทางสายใต้เหลือเพียง 5 ขบวน โดยทุกขบวนจะสิ้นสุดถึงแค่สถานีจ.ชุมพรเท่านั้น ได้แก่ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 43 กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี ขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพ-สุไหงโกลก และขบวนรถเร็วที่ 173 กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ขบวนรถด่วนที่ 85 กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 39 กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี

logoline