svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

วันที่สี่ "7 วันอันตรายช่วงปีใหม่" ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 280 ราย "เชียงใหม่" เกิดอุบัติเหตุสูงสุด

02 มกราคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ศปถ." ชี้ยอดตาย 4 วัน ยอดตายทะลุ 280 ราย เจ็บพุ่ง 2,877 คน เข้มทั่วไทยถนนสายหลัก-สายรอง รองรับแผนปชช.แห่กลับกรุงเทพฯ

2 ม.ค. 60 - ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ประจำปี 2560 ในช่วง 7 วันอันตราย ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่1ม.ค.60เกิดอุบัติเหตุ751ครั้ง ผู้เสียชีวิต81ราย ผู้บาดเจ็บ778คน รวม4วัน ตั้งแต่ 29 ธ.ค.59 1ม.ค.60 เกิดอุบัติเหตุ 2,712 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 280 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,877 คน เน้นย้ำจังหวัดปรับแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชน โดยปรับย้ายจุดตรวจ จุดบริการ และเพิ่มจุดพักรถบนเส้นทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคและจังหวัดใหญ่ พร้อมจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอต่อการบริการประชาชน รวมถึงใช้กลไกของจังหวัดและอำเภอบูรณาการความร่วมมือในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน มุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่กับการดำเนินมาตรการทางสังคมอย่างเข้มข้นจริงจัง ตลอดจนประสานการปฏิบัติของจุดตรวจบริเวณรอยต่อของจังหวัด กวดขันความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อให้การสัญจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2560เต็มเปี่ยมด้วยความสุขและความปลอดภัย
โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รองประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติคนที่สอง ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ประจำปี2560กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่1มกราคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์"ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร"เกิดอุบัติเหตุ751ครั้ง ผู้เสียชีวิต 81 ราย ผู้บาดเจ็บ 778 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ48.87ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 29.29 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ82.94ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ62.05บนถนนใน อบต. ในพื้นที่หมู่บ้าน ร้อยละ39.28ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 34.22 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 00.01- 04.00 น. ร้อยละ 29.83 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 57.63 ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก2,041จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน64,338 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 657,349 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 108,984 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่29,796ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 28,635 ราย
สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 33 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สกลนคร 7 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่35คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม4วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.59 1 ม.ค.60 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,712 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 280 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,877 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 10 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่117ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ สกลนคร และอุดรธานี (14 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 125 คน โดยข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในช่วงวันปกติมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 46 ราย ขณะที่ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2559 มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 54 ราย สำหรับข้อมูลปริมาณรถของศูนย์ปฏิบัติการคมนาคม พบว่า ในช่วงระหว่างวันที่29 ธันวาคม 2559 - 1 มกราคม 2560 มีปริมาณรถบนท้องถนนขาเข้า และขาออกกรุงเทพฯ จำนวน 3,624,282 คัน เมื่อเทียบกับช่วงปกติ มีปริมาณรถ 2,823,599 คัน เพิ่มขึ้น จำนวน 800,683 คัน คิดเป็นร้อยละ 28.36 จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น
"ในวันนี้ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ ขณะที่บางส่วนยังคงเฉลิมฉลองอยู่ในพื้นที่ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้สั่งกำชับให้จังหวัดเข้มข้นดูแลทั้งเส้นทางสายหลักและสายรองอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560 พบว่า ดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงกว่าร้อยละ48.87และเวลา 00.01 04.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 29.83 จึงขอเน้นย้ำจุดตรวจเข้มงวดในการเรียกตรวจ เพื่อตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ จากสถิติอุบัติเหตุพบว่า กว่าร้อยละ 62.05 เกิดบนเส้นทางตรง จึงขอให้จังหวัดกวดขันการใช้ความเร็ว ปรับแผนเพิ่มจำนวนจุดตรวจบนเส้นทางสายตรงที่มีระยะทางยาว เพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจเพื่อประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการหลับใน" รมว.คมนาคม กล่าวและย้ำว่านอกจากนี้ให้พิจารณาปรับแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชน โดยปรับย้ายจุดตรวจ จุดบริการ และเพิ่มจุดพักรถบนเส้นทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคและจังหวัดใหญ่ รวมถึงจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอต่อการเดินทางกลับของประชาชน
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้จังหวัด และอำเภอใช้กลไกของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2560โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน มุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายจราจร กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กฎหมายสถานบันเทิง และกฎหมายรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างจริงจัง ให้ฝ่ายปกครองกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินมาตรการทางสังคม โดยจัดตั้งด่านชุมชนและจุดสกัดในหมู่บ้าน กวดขันผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่ใช่อุปกรณ์นิรภัย และการซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากกว่า1คน รวมถึงกลุ่มผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชนในทุกพื้นที่
ขณะที่นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ในวันนี้ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ ซึ่งความอ่อนล้าจากการเฉลิมฉลองและการขับรถทางไกล อาจเป็นสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นายกรัฐมนตรีห่วงใยความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน จึงได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกำชับจังหวัดประสานการปฏิบัติงานของจุดตรวจบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัด เพื่อส่งต่อการดูแลความปลอดภัยของประชาชน โดยกวดขันความพร้อมของผู้ขับรถ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทาง ไม่ประจำทาง และรถตู้โดยสาร เป็นพิเศษ พร้อมยึดมาตรการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการผลักดันกลไกมาตรการทางสังคมและชุมชนให้มีความเข้มแข็ง อีกทั้งปรับแผนการปฏิบัติการสร้างความปลอดภัย โดยเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลเส้นทางขากลับกรุงเทพฯ และเส้นทางที่มุ่งสู่จังหวัดใหญ่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก จัดระบบการจราจรให้สอดคล้องกับปริมาณรถในแต่ละเส้นทาง ทั้งนี้ ขอฝากเตือนผู้ขับขี่ไม่ขับรถเร็ว ดื่มไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์ ขณะขับรถ หากมีอาการเหนื่อยล้าหรือง่วงนอน ให้จอดพักรถตามจุดบริการ และสถานีบริการน้ำมัน ทั้งนี้ เพื่อให้การสัญจรช่วงเทศกาลปีใหม่2560เต็มเปี่ยมด้วยความสุขและความปลอดภัย

logoline