svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ศรีวราห์" เผยวันนี้ตร.แค่ขอคืนพื้นที่ ไม่บุกค้นธรรมกาย

27 ธันวาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ธันวาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำกำลังหลายกองร้อยเตรียมพร้อมปฏิบัติบริเวณวัดพระธรรมกาย ว่า กำลังเจ้าหน้าที่ดังกล่าวไม่ได้เตรียมไว้สำหรับค้นวัดพระธรรมกาย เป็นเพียงการนำกำลังเข้าไปดำเนินการกับสิ่งกีดขวาง เนื่องจากธนารักษ์จังหวัดได้มีการร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี เพราะมีสิ่งกีดขวางของทางวัดปิดทางสาธารณะ ประชาชนทุกคนต้องสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้

เมื่อทางวัดนำสิ่งกีดขวางไปปิด เจ้าหน้าที่ก็ต้องเปิด เบื้องต้นมี 2 จุด บริเวณโดยรอบวัด และมีการกางเต็นท์ขวางถนน ส่วนจุดอื่นๆยังไม่มีการดำเนินการ เนื่องจากมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้แค่ 2 จุด เท่านั้น อย่างไรก็ตามการนำสิ่งกีดขวางมาขวางทางดังกล่าวหลักฐานเห็นชัดอยู่แล้วว่า เป็นทางสาธารณะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้บังคับใช้กฎหมาย ส่วนสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ทุกอย่างยังปกติไม่มีเหตุการณ์อะไรวุ่นวาย ตนได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการขอคืนพื้นที่ว่าให้ดูแลประชาชนอย่าให้เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าทางวัดให้ความร่วมมือมากน้อยแค่ไหน โดยช่วงเย็นวันนี้(27 ธ.ค.)จะเดินทางไปตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การขอคืนพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นการกดดันให้พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เข้ามอบตัวด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ตอบว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยว ครั้งนี้เป็นการขอคืนพื้นที่สาธารณะเท่านั้น และไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าดำเนินการให้แล้วเสร็จเมื่อไหร่ แต่คิดว่าการขอคืนพื้นที่จะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการละมุนละม่อม นิ่มนวล

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการจับกุมพระธัมมชโยและการขอหมายค้นเพิ่ม ต้องถาม ผบ.ตร. ซึ่งตนเป็นเพียงผู้ปฏิบัติงาน ส่วนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างถ้ามีการร้องทุกข์มาอีกก็ต้องดำเนินการ และที่ผ่านมาที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาสร้างอาคารโดยไม่รับอนุญาติ รวมทั้งโบสถ์ กำแพง ทุกอย่างเป็นไปตาม พ.ร.บ.อาคาร ปี 2479 และ 2522 ส่วนจะมีโอกาสถึงขึ้นรื้อสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดหรือไม่นั้นต้องรอศาลอนุมัติก็จะรู้เอง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการ เบื้องต้นมีการรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับทนายหรือบุคคลที่ออกมาพูดว่าการก่อสร้างต่างๆไม่ผิด ถ้าจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิด ก็จะต้องดำเนินคดีข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่ผ่านมามีความเห็นทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ และทนายวัดพระธรรมกาย ว่า มีความเห็นเรื่องกฎหมายที่ไม่ตรงกันนั้น ตนยืนยันว่าความผิดดังกล่าวเป็นลักษณะกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ส่วน พ.ร.บ.สงฆ์ว่าไปและ พ.ร.บ.อาคารว่าไปอย่าง แต่ต้องไปดู พ.ร.บ.สงฆ์ ปี 2505, พ.ร.บ.อาคาร ปี 2479 และ 2522 โดยทุกอย่างเป็นไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง ตนไม่ได้ใช้กฎหมายไปกลั่นแกล้งใคร

logoline