สภาพน้ำท่วมขังในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีวันนี้ ( 10 ธ.ค. 59 )โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกและตกต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้า ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำตาปีที่อำเภอพุนพินล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรบ้านเรือนราษฎรและทางเข้าออกหมู่บ้าน ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำระดับน้ำเฉลี่ยสูงตั้งแต่ 50 ซ.ม.- 80 ซ.ม.
นอกจากนั้นถนนสายบางอ้อเชื่อมต่อกับถนนสายเอเชีย 41 ถูกนำท่วมขังสูงประมาณ 50 ซ.ม.ทำให้การสัญจรไปมาลำบาก ชาวบ้านต้องรีบเก็บข้าวของขึ้นไว้ในที่ปลอดภัย โดยชาวบ้านบอกว่าพื้นที่บริเวณน้ำท่วมขังหลายระลอกแล้วต้องจมน้ำและช่วยเหลือตัวเองมาร่วม ๆ 3 เดือนแล้วเพราะต้องรับน้ำจากที่อื่นแต่โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านได้เตรียมความพร้อมด้วยการใช้ทุ่นที่ทำกระชังปลาดัดแปลงเป็นแพและบ้านลอยน้ำสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัย (เสียงชาวบ้าน)
นายประดิษฐ ทองจันทร์ นายก อบต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่าสำหรับพื้นที่ 3 หมู่บ้านคือ ม.1 ม.6 ม.7ของ ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มและอยู่ริมแม่น้ำตาปีกับแม่น้ำพุมดวง ชาวบ้านต้องประสบกับน้ำท่วมขังเกือบทุกปี ชาวบ้านส่วนใหญ่ช่วยเหลือตัวเองให้สามารถอยู่ได้ด้วยการทำแพลอยน้ำหรือบ้านลอยน้ำที่ดัดแปลงจากกระชังปลาเมื่อถึงช่วงน้ำหลากจะขนทรัพย์สินมีค่าไปเก็บในแพและอาศัยอยู่ชั่วคราวจนกว่าน้ำจะลด
ในขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุราษฎร์ธานีได้สรุปความเสียหายตั้งแต่วันที่ 2-10 ธันวาคม 2559ท มีพื้นที่ประสบภัยจำนวน 17 อำเภอ 111 ตำบล 807 หมู่บ้าน 17 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 35,237 ครัวเรือน 119,488 คน บ้านพักอาศัยเสียหายบางส่วนจำนวน 1,344 หลัง สัตว์เลี้ยงจำนวน 320 ตัว พื้นที่การเกษตร 7,734 ไร่ บ่อปลาจำนวน 443 บ่อ ถนนชำรุดเสียหายจำนวน 271 สาย สะพาน คอชำรุด 30 แห่ง ฝาย 21 แห่ง ท่อระบายน้ำ 43 แห่ง วัด 2 แห่ง สถานที่ราชการ 2 แห่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นจำนวน 165 ล้านบาท มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย