ล่าสุดได้มี ได้มีหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรภาค5เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ มีข้อความว่า ด้วยตำรวจภูธรภาค 5 มีเหตุผลความจำเป็นในการให้ข้าราชการตำรวจไปกฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
ดังนั้นจึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 มาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ระเบียบ ก.ต.ช.ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการในฐานะเป็นอธิบดีหรือแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2551 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2 ) พ.ศ.2555 และข้อ 6(2) ข้อ 8 (2) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2552 และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่289/2550 ลงวันที่ 17 พ.ต.2550
เรื่องมอบอำนาจการสั่งอนุมัติเดินทางไปราชการ จึงให้ พ.ต.ท.สิทธิพร บัวสุข รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มอบหมาย ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยให้ไปรายงานตัวภายในวันที่ 7 ธันวาคม 2559 ก่อนเวลา 10.00 น. สั่งณวันที่ 6 ธันว่าคม พ.ศ.2559 ลงาม พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5
พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ในส่วนกรณีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ดำรงตำแหน่งรองผกก.สืบสวน สภ.ช้างเผือก ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับคดีนี้ ได้มีการพิจารณาทำการย้ายไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 เนื่องจากมีการทำงานค่อนข้างล่าช้า และไม่ค่อยเห็นความคืบหน้าของรูปคดี ประกอบกับในวันเกิดเหตุ รองผกก.สืบสวนได้อยู่ในช่วงขอลาพัก หรือมีพฤติกรรมไม่กระตือรือร้นในการติดตามความคืบหน้าที่เท่าที่ควร เนื่องจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนนั้นต้องมีการทำงานกันอย่างเป็นทีม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการติดต่อโทรสัพท์ไปยัง พ.ต.ท.สิทธิพร บัวสุก รอง.ผกก.สส.สภช้างเผือก ได้กล่าวว่าต้องขอนุญาตไม่สามารถให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์ใดๆได้โดยหากจะต้องการทราบข้อมูลต้องประสานผ่านทางผู้บังคับบัญชา ทั้่งนี้หลังจากที่มีหนังสือให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการนั้น ตนเองยินยอมและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้มอบหมาย