"พอดีเราวางแผนจะไปที่เรือรบหลวงจักรีนฤเบศรกันต่อ นัดคนขับตอน 10.00 น. ซึ่งจะไม่ทันตามเวลา" น.ส. บรรจง สุดาทิพย์ รักษาราชการผู้อำนวยการโรงเรียนให้สัมภาษณ์ ซึ่งการมาครั้งนี้พวกตนนั้นตั้งใจจะเข้าไปกราบพระองค์ แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ จึงพานักเรียนทั้ง 10 คน ไปกราบพระองค์ท่านบริเวณสนามหญ้าในพระบรมมหาราชวัง ก่อนจะต้องเดินทางต่อ
"ถึงแม้จะไม่มีโอกาสได้เข้าไปสักการะเบื้องหน้าพระบรมโกศ แต่อย่างน้อยขอแค่ได้มา ได้ใกล้ชิดพระองค์แม้จะเพียงแค่นี้ ทุกคนก็มีความสุขแล้วค่ะ" น.ส. บรรจง กล่าวด้วยความปลื้มปิติยินดี
โรงเรียนบ้านขุนแจ๋ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 เพื่อให้ราษฎรชาวเขาเผ่าลีซูและคนในบริเวณนั้นได้มีการศึกษาโดยไม่ต้องเดินทางไปไกล และได้รับความช่วยเหลือจากโครงการหลวงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง เช่น หมู ไก่ และ เมล็ดพันธุ์พืช ที่มอบให้มาปลูกในบริเวณโรงเรียนเพื่อใช้ประกอบอาหารกลางวันให้กับเด็กตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง หรือแม้แต่การส่งเสริมด้านการศึกษา และสุขภาพที่ทรงห่วงใยพสกนิกรมาโดยตลอด
"พระองค์ท่านคือผู้มอบชีวิตใหม่ให้แก่พวกหนูซึ่งเป็นเด็กชาวเขาได้มีการศึกษา ได้กินดีอยู่ดี และยังได้รับสัญชาติไทย พวกหนูทุกคนซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระองค์ และตั้งใจว่าจะต้องมาที่นี้ให้ได้" นักเรียนชั้น ป. 6 ที่เดินทางมากล่าวด้วยรอยยิ้ม "หนูจะเป็นเด็กดี ประกอบอาชีพสุจริต เพื่อไม่ทำให้พระองค์ผิดหวังค่ะ"
หนทางกว่า 853 กิโลเมตร ที่ว่าไกล ก็มิอาจขวางกั้นความรักและศรัทธาที่เหล่าพสกนิกรไทยมีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ที่รักได้เลย