จุดพลิกผันชีวิตของ โอ๋-ธรรมศักดิ์เกิดจากน้ำท่วมกรุงเทพฯครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2554 จึงทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของคนเรามันไม่แน่ไม่นอนเอาซะเลย เพราะอยู่ๆวันนึงน้ำก็พัดทุกอย่างที่เรามีไปได้ แต่สิ่งเดียวที่จะทำให้เราไม่อดตายแน่ๆคือเราต้องมี "อาหาร" และประจวบเหมาะกับช่วงนั้นในโทรทัศน์เต็มไปด้วยโครงการตามแนวพระราชดำริที่แวบขึ้นมาจุดประกายเรียกได้ว่าชีวิตของเขา แทบจะเปลี่ยนในคืนเดียว และเขาก็เลิกทำสนามฟุตบอลแล้วเปลี่ยนมาปลูกผักตามทฤษฎีในหลวงอย่างจริงจังและก็ค้นพบทฤษฎี "หนึ่งไร่ไม่จน" และ "หนึ่งไร่หนึ่งแสน" ของในหลวง
ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตเกษตรกรของเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้นรถที่ไม่ได้ใช้ก็เริ่มขายไป กิจการก็ค่อยๆ หยุดทีละอย่างวิถีชีวิตก็เปลี่ยนมาเป็นพอเพียงและติดดินอย่างจริงจัง เขาพูดเสริมเกี่ยวกับทฤษฎีของในหลวงอย่างชื่นชม"เราทุกคนรู้ดีว่าทฤษฎีของพระองค์ท่านนั้นดีผมก็รู้ว่าดี แต่ดีอย่างไรนั้นไม่รู้ ผมเลยเลือกที่จะลงมือทำเลยเพราะผมเชื่อว่าทางที่พระองค์ทรงชี้นำ ไม่มีทางทำให้ผมหลงทางแน่ๆและมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ"
และเขายังได้กล่าวไว้อีกว่า "ทุกวันนี้ผมเข้าใจคำว่า พอเพียงมากขึ้น ผมรู้ว่าการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด จะทำให้อะไรก็ตามที่ทำอยู่สำเร็จและสำเร็จอย่างยั่งยืน คุณอาจจะไม่ต้องลงมาปลูกผักจริงจังแบบผมแต่แค่เปลี่ยนมุมมองความคิดให้เข้าใจคำในความพอเพียงเท่านั้นเอง"
เพราะการทำเกษตรพอเพียงตามทฤษฎีในหลวงสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ทั้งกายและใจจากที่เคยต้องทนเจ็บป่วยกับออฟฟิศซินโดรมที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่...กลายเป็นคนที่มีสุขภาพดี เพราะได้กินผักในสวนที่ตัวเองปลูก จากที่เคยต้องเครียดกับชีวิตคนเมืองกับปัญหามากมายที่สิ่งเข้าหาในแต่ละวัน กลายเป็นคนแจ่มใส ไม่เครียดใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน
อย่างไรก็ตาม ถือได้ว่าผู้ชายคนนี้ได้เป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตด้วยการพิสูจน์ตัวเองและทำให้คนอื่นเห็นแล้วว่า "ความพอเพียง"ตามคำที่ท่านสอนนั้น สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง และคนเมืองก็สามารถทำได้เหมือนกันเพียงแค่เริ่มลงมือทำมัน อาจจะเริ่มจากเรื่องราวในชีวิตประจำวันด้วยการจดรายรับรายจ่าย เพื่อให้รู้ว่าแต่ละวันเราใช้เงินไปกับอะไรบ้างและตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกโดยไม่จำเป็นต้องประหยัดจนถึงขั้นต้องเบียดเบียนตัวเองหรือผู้อื่นก็นับเป็นก้าวแรกที่ดีของการเริ่มต้นความพอเพียง หรืออย่างในภาพยนตร์โฆษณา "Follow The Father" ของบริษัท ไทยประกันชีวิต ที่เป็นนำเอาคำสอนของพ่อมาใช้เช่นกันแต่เป็นในรูปแบบของการทำความดีง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว
และเนื่องในโอกาสวันที่ 5ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนอกจากเราจะได้แสดงออกว่า "รัก" และ "จงรักภักดี" แล้ว การทำความดี กระทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมนับเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งว่าเรารักท่านได้ดีกว่าคำพูดและนี่อาจเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่อยากให้รู้ว่า "การแสดงความรักที่ดีที่สุดคือการกระทำที่เป็นรูปธรรม" #followthefather #เราจะทำแบบในหลวงติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อได้ที่ >>http://bit.ly/2fx4HCf