svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

รวบแล้ว! ลูกทรพีเผาบ้านหวังฆ่าพ่อ สำนึกผิด ไร้ที่อยู่ เพื่อน-ญาติ ไม่มีใครยอมให้อยู่ร่วมชายคา

22 พฤศจิกายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รวบแล้วลูกทรพีจุดไฟเผาบ้านคิดฆ่าพ่อ หลังไร้ที่ซุกหัวนอนสำนึกผิด ขณะที่เพื่อนและญาติไม่มีใครยินยอมให้อยู่ร่วมชายคาด้วย สารภาพความผิดที่ได้ทำไปเพราะความมึนเมาสุรา หลังจากน้อยใจปัญหาในครอบครัว โดยไม่คิดว่าจะลุกลามบานปลายจนต้องถึงขั้นติดคุก ติดตาราง

วันที่ 22 พ.ย. เวลา 13.30 น. ร.ต.อ.ซึ่งเฉลี่ย ไตรบุตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำตัวนายสรศักดิ์ คำพระ อายุ 32 ปี คนร้ายวางเพลิงเผาบ้านของนายสมพงษ์ คำพระ อายุ 55 ปี บิดาของตัวเอง ที่บ้านเลขที่ 32/31 ม.22 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จนบ้านถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายหมดทั้งสองหลัง เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.50 น.วันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น

ร.ต.อ.ซึ่งเฉลี่ย กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.20 น.วานนี้(21 พ.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ได้ควบคุมตัวนายสรศักดิ์ คำพระ เอาไว้ได้จากที่บริเวณบ้านจุดเกิดเหตุไฟไหม้ หลังจากที่นายสรศักดิ์ ได้วนเวียนย้อนกลับมาที่บ้านพัก ก่อนนำตัวไปตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติดที่ รพ.ท่าตะเกียบ และพบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จากการเสพเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า จึงได้ควบคุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหา "เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เข้าสู่ร่างกายโดยฝ่าฝืนกฎหมาย"

ด้านนายสรศักดิ์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตนรู้สึกคิดถึงลูกสาววัย 9 ขวบ เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันกับลูกมาเป็นเวลานาน เนื่องจากเดิมนั้นเคยมีภรรยาและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน แต่ภรรยาได้หนีไปเมื่อ 3 ปีก่อน เพราะทนตนตบตีทำร้ายไม่ได้ เนื่องจากเมื่อตนดื่มสุราจนเมามักจะอาละวาดทุกตีภรรยา แม้แต่มารดาเองก็ยังต้องพาหลานสาว และน้องสาวตนหนีไปอยู่ยังที่อื่นจนไม่สามารถติดต่อกันได้ และยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุตั้งใจว่าจะปรึกษากับนายสมพงษ์ บิดา แต่ได้นั่งรอเป็นเวลานานแล้วก็ไม่พบบิดา เนื่องจากบิดาไม่กล้ากลับเข้าบ้านเพราะกลัวตนจะทำร้าย ตนจึงได้ไปซื้อเหล้าขาวมาดื่มอยู่ที่บ้านตามลำพัง และเมื่อเดินไปพูดคุยกับใคร ซึ่งเป็นญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้เคียงก็ไม่มีใครคุยด้วย เพราะรู้ว่าตนชอบเมาอาละวาด จึงยิ่งทำให้ตนเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจมากยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนจะตัดสินใจเผาบ้าน

"ตอนแรกผมตั้งใจจะจุดไฟเผาบ้าน เพราะต้องการจะประชดพ่อและบรรดาญาติๆ ที่ไม่ยอมมาคุยด้วยเท่านั้น ด้วยการนำเอากระสอบปุ๋ยมาวางเอาไว้บนขั้นบันไดไม้ภายในบ้าน 2 ชั้น ก่อนจะใช้ไฟแช็คจุดไฟขึ้น จากนั้นจึงวิ่งไปบอกกับญาติว่า ได้จุดไฟเผาบ้านแล้ว เพื่อจะให้บรรดาญาติๆ พากันมาช่วยกันดับไฟ ก่อนจะคว้าเอารถจักรยานยนต์ของญาติขี่ออกไป โดยที่ไม่หันมาดูว่าบ้านนั้นกำลังถูกเพลิงไหม้หมดทั้งหลัง จนกระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ย. ได้ย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้ง ก็พบว่าบ้านถูกเผาหมดแล้วทั้งสองหลัง และไม่มีที่อยู่อาศัยอีกแล้ว จึงได้ไปขออาศัยยังที่บ้านเพื่อน แต่ก็ยังรู้สึกกลุ้มใจ ที่ไม่มีบ้านจะอยู่อาศัยต่อไปอีกแล้ว จึงได้ไปขอยาบ้ามาจากเพื่อน เพื่อนำมาเสพให้หายเครียดและกลุ้มใจ จนมาถูกตำรวจจับ เพราะย้อนกลับเข้ามาที่บ้านพัก เนื่องจากเพื่อนๆ หลายคนไม่มีใครยอมให้อยู่อาศัยด้วยเป็นเวลานาน" นายสรศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา "วางเพลิงเผาทรัพย์ โรงเรือนที่คนอยู่อาศัย

โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ลงมือจุดไฟเผาบ้านจริง จึงได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีเพิ่มเติมจากคดีเสพยาเสพติดอีกหนึ่งคดี ส่วนคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ของญาติไปนั้น ทางฝ่ายผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ และผู้ต้องหาได้นำเอารถจักรยานยนต์กลับมาคืนเอง จึงไม่เข้าข้อกฎหมายลักทรัพย์ เนื่องจากขาดเจตนาทุจริต จึงไม่ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์อีกหนึ่งข้อหา

ร.ต.อ.ซึ่งเฉลี่ย กล่าวต่อว่า สำหรับอัตราโทษในข้อหาวางเพลิงนั้น จะมีอัตราโทษหนักเบาไปตามพฤติการณ์ในการกระทำ โดยหากวางเพลิงเผาทรัพย์แล้วทำให้มีคนเสียชีวิต ก็จะมีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต หากวางเพลิงแล้วมีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต อัตราโทษก็จะลดหลั่นกันลงมา ส่วนกรณีนี้วางเพลิงเผาทรัพย์โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี ขณะที่โทษในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) นั้น มีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี และปรับ 1-6 หมื่นบาท

ด้าน นายสรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้รู้สึกสำนึกในกระทำของตนแล้ว หลังจากที่ไม่มีบ้านจะอยู่อาศัยหลับนอน และที่กระทำการลงไปนั้นเป็นเพราะว่าเมาสุรา ส่วนสาเหตุที่ชอบทำร้ายผู้เป็นบิดาในเวลาเมาเหล้านั้น เนื่องจากน้อยใจที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปควบคุมไว้ภายในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาภายใน สภ.ท่าตะเกียบ เพื่อเตรียมนำตัวส่งมาขออำนาจศาล จ.ฉะเชิงเทรา ฝากขังในวันพรุ่งนี้

logoline