นาย ปวริศ เปิดเผยว่าเวลา18.15 นวันที่14 พ.ย ช่วงเวลาที่พบเห็น และก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งกลับมาจากการทำงานที่ประเทศอินโดนีเซียและมาจากที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะกลับสถานีข่าว ย่านรัชดา โดยตนนั่งทางด้านหน้า คู่กับ ผู้ช่วยคนขับ และมีน้องผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้ประกาศนั่งมาเบาะหลัง โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ขาเข้า เมื่อสิ้นสุด ทางมอเตอร์เวย์ จะเข้าสู่ถนนใต้ทางด่วน โดยผู้ช่วยคนขับ ขับมาทางเลนกลาง ซึ่งจังหวะนั้น ได้เห็นหญิงคันดังกล่าว นั่งอยู่ที่บริเวณกระโปรงท้ายรถ จึงได้ ถามผู้ช่วยคนขับว่า"เห็นเหมือนผมหรือเปล่า"
"ตอนที่เห็น ไม่แน่ใจ เพราะเห็นไกลๆจึงบอกให้ผู้ช่วยขับรถประกบคู่ไปกับรถคันดังกล่าว จากนั้นผมได้ใช้มือถือถ่ายคลิปเอาไว้ ซึ่งระยะทางประมาณ1กิโลเมตร หรือประมาณ1นาที ที่บันทึกภาพได้จนถึงช่วงตอนที่รถคันดังกล่าว ชะลอเพื่อที่จะเลี้ยวขวา ผมก็ยังได้ให้ทางผู้ช่วยคนขับเปิดไฟฉุกเฉินและประกบคู่ทางด้านข้างก่อนที่จะเปิดกระจกแล้วตะโกนว่ามีคนนั่งอยู่ข้างหลัง กระโปรง แต่คนขับซึ่งเป็นผู้ชายไม่หันมามองเลย ผมจึงได้ให้ผู้ช่วยขับรถไป ก่อนที่จะส่งคลิปให้น้องนักข่าวและทางน้องนักข่าวได้โพสคลิปดังกล่าวในโลกออนไลน์ว่า คนหรือผี จนเป็นที่ฮือฮาในตอนนี้" นายปวริศ กล่าว
อย่างไรก็ตามรายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบพบว่า รถคันดังกล่าวเป็น รถยนต์นั่งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อัสติส สีแดง หมายเลขทะเบียน 3ก 2748 กรุงเทพ และจากการตรวจสอบพบว่าจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งยี่ห้อ โอเปิล สีน้ำตาล-เทาจดทะเบียนในชื่อของนาย ประเสริฐ เผือกเล็ก อยู่ย่านบางขุนเทียน ซึ่งถูกกรมขนส่งระงับการใช้ไปแล้ว และคาดว่ารถคันดังกล่าว เป็นรถที่สวมทะเบียน ซึ่งทางเจ้าหน้ากำลังทำการเชิญมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ แผ่นป้ายทะเบียน ดังกล่าว และตามหาหญิงสาวนิรนามดังกล่าวมาทำการสอบสวน