svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

จ่อเรียกเพื่อน"น็อต" ให้ปากคำ รอแพทย์ระบุอาการเจ็บ คู่กรณี หากสาหัสเจอ"แจ้งข้อหาเพิ่ม"

09 พฤศจิกายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ นักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล (ผบก.น.) 6 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) กล่าวถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนระหว่างรถยนต์เก๋งมินิคูเปอร์ สีเหลือง กับ รถจักรยานยนต์ โดยปรากฏคลิปการกระชากคอเสื้อทำร้ายร่างกาย และบังคับให้กราบรถ ระหว่างนายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ น็อต ที่รู้จักกันในวงการบันเทิงคือ "น๊อต เวคคลับ" พิธีกรรถโรงเรียน ทางช่องจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ 25 กับ นายกิตติศักดิ์ สิงห์โต หรือ บอย อายุ 25 ปี อาชีพฝ่ายคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ที่ต่อมาพบว่านายกิตติศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บ โดยสังคมออนไลน์มีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวาง จนเกิดวลี "กราบรถกู" ว่า เบื้องต้นนายกิตติศักดิ์ หรือบอย ได้ทำการผ่าตัดจมูก ซึ่งต้องรอดูว่าแพทย์จะลงความเห็นอย่างไร ถ้าหากแพทย์ระบุอาการสาหัส ทางพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา จะได้เรียกตัวมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในข้อหาทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส

พล.ต.ต.ทรงพล กว่าวอีกว่า เมื่อวานนี้(8 พ.ย.)พนักงานสอบสวนได้เรียกนายอัครณัฐ หรือน็อต มาครั้งหนึ่งแล้ว เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มตามมาตรา 309 ในข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ส่วนจะเรียกเพื่อนของนายอัครณัฐซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบสวนด้วยหรือไม่นั้น ได้กำชับไปยังพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากในคดีต้องมีทั้งพยานวัตถุ พยานบุคคล นอกจากนี้ยังมีการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบดูตั้งแจ่ก่อนเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนจนมาถึงการทำร้ายร่างกายด้วย อย่างไรก็ตามกรณีที่เพื่อนของนายอัครณัฐที่ไม่ห้ามปรามถือว่ามีความผิดด้วยหรือไม่นั้น ต้องดูรายระเอียดอีกครั้งว่า เขาได้สั่งการหรือยุยงส่งเสริมหรือไม่ จะต้องดูพฤติกรรมโดยรวมประกอบ หากพบว่ามีการยุยงส่งเสริมก็จะเข้าข่ายความผิดที่ตำรวจจะต้องดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าพิจารณาจากคลิปที่ปรากฏ เพื่อนของนายอัครณัฐพยายามบอกกับคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ว่า ไม่ให้พูดอะไรนั้น ต้องถูกพิจารณาเข้าข่ายมีความผิดด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.ทรงพล บอกว่า เรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนนี้ด้วย ถ้าเข้าข่ายต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นมาตรการสอบสวนของพนักงานสอบ ส่วนจะมีการพิจารณาพักใช้ใบขับขี่ของนายอัครณัฐหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนในการใช้ดุลยพินิจ โดยปกติจะยึดในกรณีที่ขับรถขณะเมาสุรา หรือขับรถเป็นที่น่าหวาดเสียวเท่านั้น แต่ในกรณีดังกล่าวต้องให้ความเป็นธรรม ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

logoline