ประกาศ 6 อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติ

กรมศิลปากรยืนยันว่าโบราณสถานที่อยู่ริมน้ำจะไม่ถูกน้ำท่วมเพราะมีระบบป้องกันเป็นอย่างดี แต่การปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ก็ทำให้ พื้นที 6 อำเภอของจังหวัด ถูกประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว
เช้าที่ผ่านมา ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่วัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา หลังได้รับแจ้งเตือนว่าน้ำจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เสมอกับตลิ่งหน้าวัดไชยวัฒนารามแล้ว โดย เจ้าหน้าที่ได้ยกบังเกอร์พร้อมปูผ้าใบตลอดแนวด้านหน้าวัดไชยวัฒนาราม รวมระยะทางยาวกว่า 165 เมตร รับมือมาตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่าน โดย แนวบังเกอร์มีความสูง 2.10 เมตร ป้องกันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเอ่อเข้าท่วมโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม
นายช่างโยธาชำนาญงาน อุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา อรรถสิทธิ์ อินต๊ะ บอกว่า ปีนี้โบราณสถานในพระนครศรีอยุธยา จะไม่ถูกน้ำท่วมเพราะได้ติดตามสถานการณ์โดยตลอด และป้องกันได้ทันที
สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยายังวิกฤติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ฎรงค์กร สมตน บอกว่า การระบายน้ำเพิ่มของเขื่อนเจ้าพระยา กว่า 2000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงจากเดิมและกระทบต่อผู้อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ลุ่มต่ำโดยเฉพาะใน อ.เสนา และ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกประมาณ 50-70 ซม.
ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประยูร รัตนเสนีย์ ประกาศให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองบางหลวง และคลองบางบาล รวม 6 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติได้แก่ อ.บางบาล อ.เสนา อ.ผักไห่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางไทร และ อ.บางปะอิน รวม 73 ตำบล 425 หมู่บ้าน
ด้านผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา เลิศชัย ศรีอนันต์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้วางแผนจะผันน้ำเข้าพื้นที่แก้มลิง ที่เตรียมไว้รองรับน้ำหลาก ในวันที่ 6 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยทุ่งป่าโมก-ผักไห่ 5 หมื่นไร่ รับน้ำได้ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร/ ทุ่งผักไห่ พื้นที่ 1 แสน 5 หมื่นไร่ รับน้ำได้ 240 ล้านลูกบาศก์เมตร และทุ่งบางบาล พื้นที่ 1 แสน 3 หมื่น 810 ไร่ รับน้ำได้ 130 ล้านลูกบาศก์เมตร รวม 3 พื้นที่นี้ รับน้ำได้ 450 ล้านลูกบาศก์เมตร // ทั้งนี้ได้แจ้งเตือนให้เกษตรกรในพื้นที่รับน้ำ 3 แห่ง เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตทางเกษตร ให้แล้วเสร็จ โดยคาดการณ์ว่า ช่วงดังกล่าวจะมีปริมาณน้ำฝนสูงที่สุด และระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอีก ซึ่งขณะนี้เหลือพื้นที่ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวอีกประมาณ 53,000 ไร่