ช่วงเช้าวันนี้ที่โรงเรียนบ้านหมากแข้ง เทศบาลนครอุดรธานี ที่เป็นโรงเรียนดังที่เป็นข่าวฮือฮา มีนักเรียนคู่แฝดมากที่สุดในโลกถึง 29 คู่ คณะครูอาจารย์ของโรงเรียน ได้มารวมตัวที่หน้าห้องทำงานของ นายสุรพล สุขประเสริฐ ผอ.โรงเรียนฯ พร้อมมอบช่อดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ
หลังจากที่คณะกรรมการศึกษาธิการ (กศจ.) อุดรธานี มีมติให้โยกย้ายนายสุรพลไปเป็น ผอ.โรงเรียนบ้านคำกลิ้ง ต.บ้านจั่น อ.เมือง และให้นายพยัคฆ์ รัตนปกรณ์ ผอ.โรงเรียนบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง ย้ายมาเป็นผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง
โดยทั้ง 2 ท่าน จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน นี้ หรือเหลือเวลาทำงานอีกเพียงอีก 3 วันเท่านั้น
คณะครูอาจารย์ที่เดินทางมาให้กำลังใจ แม้ยังคงรอคำสั่งของนายประเวศ รัตนวงศ์ รักษาการศึกษาธิการ จ.อุดรธานี ที่ยังไม่ลงนาม โดยได้ขอให้นายสุรพล อยู่ในตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ไปก่อน โดยเฉพาะในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ครูอาจารย์-นักเรียน จะร่วมกันแสดงมุทิตาจิต และนักเรียน 900 คนรำอวยพรหน้าเสาธง หลังจากที่นายสุรพลได้สร้างคุณูปการแก่โรงเรียนมากมาย ติดต่อกันยาวนานมากกว่า 6 ปี และยังขอให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนการออกคำสั่งย้ายครั้งนี้ด้วย
ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง เปิดเผยว่า ทราบข่าวจากเพื่อนครูว่ามีคำสั่งย้าย ก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการเพียง 3 วันเท่านั้น ซึ่งการย้ายผู้บริหารโรงเรียนที่ความจริง ต้องมี 2 องค์ประกอบ คือ การประเมินผลผู้ปฏิบัติงาน ที่จะต้องนำผลงานของแต่ละปีมาประเมิน และการย้ายตามกฎหมาย พรบ.ครู มาตรา 59 ที่ผู้ที่จะย้ายเข้ามาโรงเรียนใดก็แล้วแต่ ต้องให้กรรมการสถานศึกษาเห็นชอบ ว่าต้องการให้ใครมาบริหารโรงเรียน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อโรงเรียน
โดยต้องนำ 2 ส่วนนี้มาพิจารณา ส่วนอายุราชการที่เหลือเพียง 2-3 วัน แต่ต้องมาถูกคำสั่งย้าย เรื่องนี้ยังไม่ทราบ แต่ก็อาจเป็นไปได้ หากมีกรณีร้ายแรงที่คำสั่งจะชอบในบางสิ่งบางอย่าง แต่ไม่สบายใจว่า ที่มีการพิจารณาย้ายได้นำข้อมูลต่างๆ ไปพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วหรือยัง
ตามพรบ.ครู มาตรา 59 ชี้ว่าผู้ที่จะย้ายมาโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ต้องให้กรรมการสถานศึกษาให้ความเห็นชอบ แต่ผู้ที่จะย้ายมาแทนทางกรรมการสถานศึกษาไม่แห็นชอบที่จะให้ย้ายมา หากย้ายมาแล้วจะเกิดปัญหาหรือไม่ ตนยอมรับในสิ่งที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองพิจารณา แต่ขอทราบว่าพิจารณาโดยได้ข้อมูลที่แท้จริงถ่องแท้หรือยัง ที่ผ่านมาอยู่ที่โรงเรียนนี้ 6 ปี และอีก 3 วันจะเกษียณแล้ว มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกไหม หากคำสั่งมาจะมีผลอย่างไรก็ตาม แต่ยืนยันจะทำหน้าที่ที่โรงเรียนนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน
ด้านนายประเวศ รัตนวงศ์ รักษาการศึกษาธิการ จ.อุดรธานี และ ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1 ซึ่งจะเกษียณราชการในปีนี้เช่นกัน เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนทางธุรการ และช่วงนี้ตนต้องไปร่วมงานเกษียณอายุราชการต่าง ๆ ซึ่งตนก็จะเกษียณด้วย จะไม่ขอให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ ขอให้ไปสัมภาษณ์นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี ซึ่งมีฐานะเป็นประธานกรรมการศึกษาธิการ จ.อุดรธานี ที่พิจารณาเรื่องนี้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวติดต่อจะขอสัมภาษณ์นายชยาวุธ ผวจ.อุดรธานี แต่ติดภารกิจติดตามองคมนตรี ที่มาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.บ้านดุง รวมทั้งไม่สามารถติดต่อ นายพยัคฆ์ รัตนปกรณ์ ว่าที่ ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ได้
แต่กลับมีแถลงการณ์ของนายพยัคฆ์ฯ ลงวันที่ 28 กันยายน 59 ออกแจกจ่ายรวมทั้งส่งทาง "สื่อออนไลน์" ระบุความเป็นมาและข้อเท็จจริง การได้รับแต่งตั้งเป็นผอ.รร.บ้านหมากแข้ง ก่อนเกษียณอายุ 3 วัน 1.เกิดจากการย้ายผู้บริหารตามคำขอปี 53 ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ 2.คกก.ประเมินขอย้ายให้ตนได้คะแนนสูงสุด แต่กลับให้บุคคลอื่นส่งเอกสารเพิ่มเติม 3.อกคศ.เขตมีมติลับให้บุคคลที่เคยมีคะแนนต่ำกว่า มาดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง (8 ธ.ค.53)
4. กคศ.ได้มีมติให้เพิกถอนมติการแต่งตั้ง ผอ.รร.บ้านหมากแข้ง 3 ครั้ง ตามหนังสือลับ ครั้งที่หนึ่ง 21 ม.ค.56 ครั้งที่สอง 14 พ.ค.58 และครั้งที่สาม 13 ก.ย.59 มติและคำวินิจฉัยของ กคศ.ครั้งที่ 3 ระบุเพิ่มเติมอย่างชัดเจนว่า การโยกย้าย ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการย้ายผู้บริหาร จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ถอนมติและคำสั่งแต่งตั้ง ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ผอ.พยัคฆ์ รัตนปกรณ์ ได้รับความเป็นธรรมถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนเกษียณอายุราชการเพียง 3 วัน