หนุ่มเทศบาลบางวัวโร่เข้ามอบตัว หลังถูกออกหมายจับ คดีฆ่าเปลือยสาวริมถนน ตร.มั่นใจไม่ผิดตัว

วันที่ 28 ก.ย.59 เวลา 14.30 น. นายนพดล ฐิติวร ส.อบจ เขตพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำตัว นายไพโรจน์ พูลทวี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 ม.10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พนักงานลูกจ้างชั่วคราวของเทศบาลตำบลบางวัว ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 4 กม. เดินทางเข้ามามอบตัวต่อทาง พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก. สภ.บางปะกง ยังภายในห้องทำงาน หลังจากถูกศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา อนุมัติให้ออกหมายจับในคดีฆ่าเปลือย และจัดฉากทิ้งศพลักษณะถูกข่มขืนริมทางเปลี่ยว

เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ย.59 ที่ผ่านมาภายในซอยทางเข้าบ้านล่างบางสมัคร และหมู่บ้านสิรารมย์ พลัส เวลโกรว์ ถนนเลียบกำแพงเลาะรั้ว บริษัทไทยตาบูชิ อิเล็คทริค จำกัด ในพื้นที่ ม.5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ห่างจากถนนบางนา-ตราด (สาย 34) บริเวณหลัก กม.ที่ 38+300 ฝั่งขาเข้า กทม.เข้าไปประมาณ 150 เมตร ตามที่ได้นำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมานั้น

โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาตามหมายจับ พร้อมอ้างว่าในวันเกิดเหตุนั้นได้มาเข้าเวรแล้วกลับเข้าบ้านพักเลยทันทีหลังจากออกเวรแล้วไม่ได้ไปไหน และไม่ได้ไปยังที่ร้านเอเชียอาบอบนวดในวันเกิดเหตุแต่อย่างใด แต่เคยไปใช้บริการยังสถานที่ดังกล่าวมาบ้าง ที่เข้ามามอบตัวในครั้งนี้นั้น เนื่องจากมีคนรู้จักหลายคนมาบอกว่าพบภาพของคนร้ายในคดีนี้ ที่ถูกนำเสนอข่าวออกผ่านทางสื่อ มีลักษณะรูปพรรณที่คล้ายกันกับตนเอง จึงได้ตัดสินใจเข้ามามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ต่อมาในเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมารับมอบตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ด้วยตนเอง โดยได้กำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพาไปตรวจร่างกาย เพื่อหาร่องรอยตามร่างกายเพิ่มเติมประกอบสำนวนคดี ยังที่ รพ.บางปะกง นอกจากนี้ยังได้ให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เดินทางมาเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ จากเมือกกระพุ้งแก้มของผู้ต้องหา เพื่อนำเอาไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับหลักฐานที่ตรวจพบในวันเกิดเหตุด้วย

โดย พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่เข้ามามอบตัวในวันนี้ได้ให้การปฏิเสธ ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา" ตามที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราได้อนุมัติหมายจับออกมาแล้วในวันนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยในการดำเนินคดีก็จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยผู้ต้องหามีสิทธิที่จะปฏิเสธ หรือให้การรับสารภาพ แต่ทางพนักงานสอบสวนนั้นยังเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่ได้มา ทั้งพยานบุคคล วัตถุพยาน รวมทั้งพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ จึงเชื่อว่าพยานดังกล่าวสามารถที่จะนำมาผูกมัดให้ศาลเชื่อว่าทางฝ่ายผู้ต้องหานั้น ได้กระทำผิดจริง จากปากคำพยานที่ได้มาพบว่าผู้ต้องหานั้นเคยไปใช้บริการยังสถานบริการอาบอบนวดแห่งนี้บ่อยครั้ง ส่วนสถานที่ลงมือสังหารนั้นยังไม่ยืนยันชัดเจน ว่าผู้เสียชีวิตถูกฆ่าตรงบริเวณใด ซึ่งต้องรอผลจากการตรวจชันสูตรศพ จากทางสถาบันนิติเวชยืนยันกลับมาก่อน โดยแพทย์จะยินยันว่าศพนั้นตายมาแล้วกี่ชั่วโมงในขณะที่พบศพ