พี่ชายยันไม่เคยทิ้งเสี่ยร้อยล้านให้ตกอับ

    ต่อมา นายสุพัฒน์ ทิพลักษณ์ รอง ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนางสาวกิติตมา บุญโนนแต้ นักพัฒนาสังคมสงเคราะห์ ได้เดินทางมาร่วมสอบถาม จึงทราบชื่อชายเร่ร่อนคือนายสุทธิลักษณ์ (เฮียเล็ก)เลิศวานิชย์กุล อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 742/1 ม.9 ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ อดีตเศรษฐีร้อยล้าน บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่และเป็นพี่น้องกับนักการเมืองท้องถิ่นตระกูลดังด้วย ซึ่งได้แยกทางกับภรรยามากว่า 5 ปี ด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ความดันเบาหวานและติดเหล้าขนาดหนัก สุดท้ายกลายเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวเดินเหินไม่สะดวก เบื้องต้นทางพัฒนาสังคมและเพื่อความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยภูมิ(พม)ได้รับตัวไว้ในความดูแลของศูนย์คนไร้ที่พึ่งไว้ก่อนเเล้ว

   ล่าสุด นายโสภณ รอดชาติครับ ผอ. ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า เบื้องต้นทางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ที่พักอาหารยารักษาโรคและที่นอนที่อาบน้ำให้ทำความสะอาดร่างกายเพื่อรักษาสุขภาพป้องกันโรคแทรกซ้อนไว้ก่อน ซึ่งเฮียเล็กก็มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดี และพร้อมจะที่จะกลับไปอยู่กับภรรยาและลูกเหมือนเดิมหากเป็นไปได้ ซึ่งทางพม.ก็จะได้ปรึกษาหารือกับนายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล นายอำเภอแก้งคร้อ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งประสานกับญาติและภรรยาของเสี่ยเล็กอดีตเศรษฐีร้อยล้าน ในแนวทางการรักษาบำบัดโรคสุราและแก้ไขปัญหาภายในครอบครัวและญาติ ในวันจันทร์ที่ 26 ก.ย.นี้

     ทั้งนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายอัฎฐพล เลิศวานิชย์กุล หรือเสี่ยเฒ่า อายุ 53 ปี เจ้าของโรงงานผลิตและจำหน่ายที่นอนยี่ห้อชัยแก้ว เลขที่ 742 ม.1 ถนนภูเขียว-ชัยภูมิ ซึ่งได้เปิดเผยว่ากรณีที่น้องชายคือนายสุทธิรักษ์ เปิดเผยว่า ถูกญาติพี่น้องทอดทิ้งนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อก่อนนายเล็กน้องชายเป็นคนชอบดื่มสุราหนักและเที่ยวเตร่จนเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม2555 นายเล็กเริ่มเจ็บป่วยด้วยโรคเส้นเลือดสมองตีบจนต้องเข้ารับการรักษา จนกระทั่งออกมาจากรพ.สุดท้ายก็ป่วยเป็นอัมพฤกษ์แขนขาข้างซ้ายอ่อนแรงครอบครัวภรรยาเองก็ไม่ได้ทอดทิ้ง แต่ที่นายเล็กต้องเร่ร่อนไปอาศัยวัดหรือรพ.นอนก็เพราะ นายเล็กเองไม่ยอมเลิกพฤติกรรมการดื่มเหล้าและเที่ยวเตร่ ถึงแม้เจ็บป่วยก็ไม่เคยคิดรักษาตัวเอง เช่นหมอนัดทำกายภาพบำบัด ก็ไม่เคยไปแม้แต่ครั้งเดียว ภรรยาและลูกๆเคี่ยวเข็นก็ไม่ใส่ใจจนเมื่อปี2556 นายเล็กแอบขายที่ดินไปหนึ่งแปลงได้เงินประมาณเกือบ 2 แสนบาท ก็นำเงินเช่าโรงแรมนอนนานกว่าครึ่งปี และนำไปเที่ยวเตร่ ดื่มเหล้าจนเงินหมด ไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม ภรรยาทนไม่ไหวจึงไม่ให้เข้าบ้าน จากนั้นนายเล็กก็กลับมาอยู่กับตนเองที่โรงงานที่นอน แต่ชอบดื่มเหล้าจึงได้เช่าบ้านใกล้ๆโรงงานให้นายเล็กอยู่ มีแม่บ้านทำอาหารไปส่งประจำ ต่อมาไม่นานก็หนีไปอยู่วัดแห่งหนึ่งละแวกบ้าน แต่ก็ถูกเจ้าอาวาสเชิญออกจากวัด เพราะชอบดื่มเหล้าภายในวัดและส่งเสียงดัง จนต้องกลับมาอาศัยอยู่กับตนอีกครั้ง

   นายเล็กยังมีพฤติกรรมดื่มเหล้าเหมือนเดิม โดยจะขอเงินวันละ 4-500 บาท เพื่อไปซื้อสุราราคาแพงมาดื่มทุกวัน แรกๆก็ให้ ต่อมาก็ไม่ไหว จนล่าสุดก่อนที่จะเร่ร่อนไปขอเงินชาวบ้านและนอนตามโรงพยาบาลนั้น เมื่อปี 2557 นายเล็กได้แอบขายที่ดินอีกหนึ่งแปลง ได้เงินจากการขายที่ดินประมาณ 3 แสนบาท หลังจากได้เงินก็เหมารถตู้ไปเที่ยวเตร่ตามโรงแรมหรูๆ เพียง 3 วัน เงินก็หมด สุดท้ายทางครอบครัวของภรรยาสั่งห้ามเข้าบ้านเด็ดขาดและขอแยกทางตั้งแต่นั้น ซึ่งหลังจากแยกทางกับภรรยาก็ไม่มีที่อยู่ กลับมาอยู่กับพี่ชายบ้าง แต่ก็อยู่ไม่นานเพราะพี่ชายไม่ยอมให้เงินไปซื้อเหล้าเหมือนเดิม จนหนีออกจากบ้านอีกครั้ง ไปอาศัยนอนตามโรงพยาบาลอย่างถาวร แต่ก็ยังมาขอข้าวขอเงินพี่ชายที่ร้านทุกวันๆละ50บาทบ้าง100 บาทบ้าง เพื่อนำไปซื้อเหล้าดื่ม สุดท้ายพี่ชายให้เงินเพียงวันละ 20-30บาท เมื่อได้เงินจากพี่ชายน้อยลงก็จึงเริ่มขอเงินจากคนรู้จักในตลาดจนชาวบ้านอืมระอา อยากให้ทางราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวน้องชายไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และเลิกดื่มสุราให้ได้เด็ดขาด โดยยินดีที่จะจ่ายเงินค่าดำเนินการให้ทุกเดือนอีกด้วย