กทม.เฝ้าระวัง! พร้อมรับทุกน้ำ

 นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในรายการกรองข่าววันเสาร์ เอฟเอ็ม 102 ถึง การเฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วม ว่า ในช่วงระหว่างที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนให้ระวังภาวะฝนตกหนักซึ่งเป็นผลจากพายุพาดผ่านนั้น กทม.ได้เฝ้าระวังในจุดเสี่ยงต่างๆ โดยเพิ่มความสูงของถนน แก้ปัญหาน้ำท่วมรอระบายบนผิวถนนและเฝ้าระวังพายุรวม5ลูก.

  เขา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังติดตามน้ำเหนือ ที่พบว่าจากสถานีบางไทรมีปริมาณน้ำไหลเข้ากทม.900ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งอยู่ในกำลังที่รับมือได้ถ้าปริมาณน้ำมากกว่าจะมีวิธีรับมือ เช่น เสริมประตูระบายน้ำหรือปิดประตูระบายน้ำ ส่วนปัญหาน้ำหนุนสามารถรับมือได้ที่ระดับความสูง3เมตร.อย่างไรก็ตาม กทม.มีความกังวลปัญหาขยะ.โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ออกเก็บขยะก่อนมีฝนซึ่งปัจจุบันสามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า3ชม.ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือไปยังประชาชนที่ตัดกิ่งไม้ ต้นไม้ ไม่ทิ้งลงคลองเพราะจะทำให้ขวางทางน้ำซึ่งกทม.พบขยะขนาดใหญ่จำนวนมากที่อุโมงค์ระบายน้ำ.

 "ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาบริหารจัดการน้ำของกทม.โดยอนุมัติงบประมาณเพื่อแก้ไขจุดอ่อนโดยจะมีการสร้างอุโมงค์เพื่อผลักดันน้ำออกแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเริ่มก่อสร้างภายใน1-2เดือนนี้.ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้ายังคงเฝ้าระวังพื้นที่ความเสี่ยง.แต่ความรุนแรงของฝนจะลดน้อยลง เตรียมปั๊มน้ำสำรองทุกจุดกทม สำหรับผม.เข้าใจการวิพากษ์วิจารณ์ที่ผ่านมาของประชาชนที่มีความคาดหวังสูงขณะที่กทม.เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำแต่มีงบฯจำกัดจึงต้องมุ่งแก้ปัญหาจุดสำคัญก่อน".นายอมร กล่าว

 เมื่อถึงกรณีที่มีการวิจารณ์ถึงเรื่องน้ำรอระบาย นายอมร กล่าวว่า  คำว่าน้ำรอระบาย เป็นศัพท์เทคนิคในการระบายน้ำมีน้ำเหนือน้ำหนุนและน้ำรอระบายที่เกิดจากฝนตามธรรมชาติแล้วระบบระบายน้ำไม่เพียงพอทำให้น้ำเอ่อล้นขึ้นจากท่อต้องใช้เวลาบริหารจัดการ3-4ชม.ไม่ใช่น้ำท่วมที่หมายถึงอุทุกภัย.ในช่วงที่ไม่มีผู้ว่ากทม.ก็สามารถทำงานต่อไปได้แต่ขาดกำลังใจทุกครั้งที่มีฝนตกผู้ว่าฯจะติดตามเรื่องน้ำท่วมตลอดทุกครั้งที่มีปัญหาจะลงพื้นที่ก่อน สำหรับตอนนี้สิ่งที่ผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ทำได้ คือ สอบถามว่างานมีปัญหาอุปสรรคอะไรหรือไม่เท่านั้น"นายอมรกล่าว