"ศานิตย์"ระบุ "รองนายกฯ กำลังถกขนส่ง บีบชาวบ้านจ่ายค่าปรับใบสั่ง

กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) - เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ก.ย.2559 พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เป็นประธานงานสัมมนาการบริหารจัดการงานจราจร โดยการนำงานวิจัยด้านการจราจร จากสำนักงานสนับสนุนกองทุนวิจัย หรือ สกว. ที่มีการวิจัยมานานกว่า 2 ปี นำมาเพื่อปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลงานจราจร จากทั้ง 88 สถานีของกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าร่วมประชุมสัมนา
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า การสัมมนาในวันนี้ จะเป็นการนำงานวิจัยของนักวิชาการที่ศึกษาปัญหาด้านการจราจรมาปรับแก้ โดยจะรวมการปฏิบัติจริงของแต่ละพื้นที่เข้ามาร่วมในการนำวิธีต่างๆมาใช้ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล พยายามเดินหน้าแก้ไขปัญหาด้านการจราจรในช่วงที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง พบว่าขณะนี้สามารถคลี่คลายปัญหาการจราจรในพื้นที่คับขันในบางจุด เร็วกว่า 1-2 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนี้หากนำงานวิจัยที่ทาง สกว.ลงพื้นที่ศึกษาวิจัยมาปรับใช้ คาดว่าจะสามารถทำให้ปัญหาการจราจรที่คับคั่งในพื้นที่ในช่วงเวลาเร่งด่วนคลี่คลายลงได้มากกว่านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรยังคงดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางในการจัดตั้งศาลจราจร เชื่อว่าหากสามารถจัดตั้งได้จะเป็นเรื่องดีในการมีหน่วยงานกลางเข้ามาบังคับใช้กฏหมายจราจร และยังเป็นการบังคับใช้ที่หนักแน่นมากกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้เอง ในส่วนของความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร และกองบัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมขอความร่วมมือกับกทม.ดูกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบสภาพการจราจรในพื้นที่บางจุดที่กล้องของตำรวจไม่สามารถตรวจสอบได้ ให้ครอบคลุมในการตรวจสอบสภาพการจราจรหรือท้ายแถวในช่วงเวลาเร่งด่วน  "ฝากถึงพี่น้องประชาชนในการให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานในการแก้ปัญหาการจราจร โดยการขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด จะเป็นส่วนช่วยให้การแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว" พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นการร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ในการจ่ายค่าปรับออนไลน์ หากไม่ชำระค่าปรับจะถูกปรับ 4 เท่า และไม่สามารถต่อทะเบียนได้นั้น เรื่องนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกันกับกรมการขนส่งทางบก โดยมีรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้หารือ ส่วนตัวเชื่อว่าสามารถทำได้ และเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ประชาชนเคารพกฏหมายจราจรมากขึ้นด้วย ส่วนจะบังคับใช้ในช่วงใดต้องรอผลการหารือก่อน แต่หากมีการบังคับใช้จริง จะไม่มีผลย้อนหลังสำหรับผู้ที่เคยโดนใบสั่งก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานวิจัยในวันนี้ มีทั้งเรื่องการใช้ความร่วมมือของภาคประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการแก้ไขปัญหาการจราจรในรอบพื้นที่บริเวณห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ตลาดสด และ แหล่งชุมชนต่างๆ ซึ่งจากผลการวิจัยสรุปได้ว่า หากภาคประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมมือกันก็จะสามารถจัดการปัญหาด้านการจราจรได้ รวมถึงความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และท้องถิ่นอย่างกรุงเทพมหานคร ในการจัดการระบบหาบแร่แผงลอยริมทาง การปรับปรุงระบบสัญญาณไฟจราจร และ การจัดหาพื้นที่จอดรถเพื่อรองรับผู้ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ รวมถึงการจัดตั้งศาลจราจรเพื่อการบังคับใช้กฏหมายจราจรที่หนักแน่นมากขึ้น