เด็กหญิงยอดกตัญญู ขอยุติรับบริจาคเงิน หลังยอดพุ่ง 2 ล้าน

นายกิจชัย สุภาพ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสวายน้อยวิทยา ต.ยางใหญ่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เปิดเผยถึงชีวิตน้องปลาเด็กหญิงเกษมศรี บุญใส อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนวัดสวายน้อยวิทยาเจ้าของเรียงความเศร้า เปิดเผยยอดเงินบริจาคเพื่อเป็นทุนการศึกษา และช่วยเหลือครอบครัวตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ว่า หลังจากที่เป็นกระแสข่าวออกไปได้มีประชาชนจากทั่วประเทศได้โทรมาสอบถามและให้กำลังใจน้องปลาเป็นจำนวนมาก เรียกว่าดีขึ้น ยิ้มแย้มแจ่มใส มีสมาธิในการเรียนมากกว่าเดิม ตั้งใจจะเอาดีให้ได้มากกว่าเดิมเพราะว่าน้องปลามีความฝันอยากเป็นครู อยากจะร้องเพลง ซึ่งทางโรงเรียนก็พร้อมที่จะส่งเสริมน้องให้ไปตามฝัน สำหรับที่โรงเรียนวัดสวายน้อยก็มีวงหมอลำซิ่ง เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักเรียนที่จะหารายได้

นายกิจชัยยังกล่าวอีกว่าสำหรับเงินบริจาคที่ชาวไทยทั้งประเทศส่งมาให้น้องปลานั้น มีมากอย่างล้นหลาม ล่าสุดยอดบริจาคพุ่งสูงถึง 2 ล้านบาท เรื่องการแบ่งปันให้เพื่อนนั้น คณะกรรมการโรงเรียนรวมทั้งผู้ปกครองของน้องปลาได้มีแนวทางการบริหารเงินที่แบ่งให้เพื่อทั้งสามคนดังนี้ เงินที่เพื่อแต่ละคนได้รับจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งสามารถนำไปใช้จ่ายในครัวเรือนและสิ่งใดก็ได้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของแต่ละคน ส่วนที่สองเป็นการแบ่งออกมาเข้าบัญชีร่วมของผู้ปกครอง นักเรียน ครูที่ปรึกษา หรือ ผู้อำนวยการโรงเรียน เงินส่วนนี้จะสามารถนำออกมาใช้ได้เมื่อ เด็กเรียนจบ ม.3 แล้วอยากไปเรียนต่อในสายสามัญ หรือสายอาชีพ หากไม่เรียนต่อก็สามารถนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้

นายกิจชัย ได้เปิดเผยถึงเหตุผลการแบ่งสัดส่วนข้างต้นว่า สำหรับนักเรียนที่จบชั้น ม.3 แล้วบางคนไม่สามารถไปสมัครเรียนต่อได้เนื่องจากไม่มีเงินที่จะเดินทางหรือสมัครเรียนได้เป็นเหตุให้นักเรียนส่วนใหญ่ต้องหยุดเรียนแต่ถ้าเด็กเหล่านี้มีเงินปิดช่องว่างนี้ก็จะสามารถเรียนต่อได้อย่างน้อยเมื่อเข้าเรียนในระดับ ม.ปลาย หรือสายอาชีพก็จะมีเงิน กยศ.มาช่วยเหลืออีกทาง

น้องปลา กล่าวว่าหลังจากที่เป็นข่าวออกไปชีวิตเปลี่ยนไป มีคนรู้จักมากขึ้น มีผู้ใหญ่จากทั้งประเทศได้ติดต่อให้กำลังใจผ่านทางท่านผู้อำนวยการ สื่อต่างๆหนูต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้หนู หนูสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนและจะเรียนให้สูงสุดเท่าที่จะทำได้

ด้านเงินบริจาคตอนนี้ทางท่านผู้อำนวยการ คุณพ่อ คุณแม่ แจ้งว่ามียอดเงินบริจาคสูงถึง 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่มากมายมหาศาลในชีวิตที่หนูและครอบครัวไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เห็นเงินเยอะขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ตามหนูเองได้เคยสัญญากับเพื่อนอีก 3 คนไว้ว่าหากใครได้ดีเราจะไม่ทิ้งกัน วันนี้หนูได้รับแรงกำลังใจจากคนทั้งประเทศอย่างมหาศาลหนูจะได้แบ่งเงินบริจาคให้เพื่อนทั้ง 3 คนที่มีชีวิตที่ลำบากเหมือนกันเพื่อเป็นทุนการศึกษาและบรรเทาทุกข์ในครอบครัว อีกส่วนหนึ่งหนูได้มอบให้กับโรงเรียนอีก 2 แสน ในการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือน้องๆในอนาคตที่อาจจะมีความลำบากเหมือนกันกับหนู

น้องปลายังกล่าวอีกว่า ด้วยยอดเงินที่สูงถึง 2 ล้านบาท หนูคิดว่ามันมากเกินที่เพียงพอแล้วจึงได้ปรึกษากับทางคุณพ่อ คุณแม่ และ ทางผู้อำนวยการ ขอยุติการรับบริจาคไว้เพียงเท่านี้ และขอนำเงินที่ได้นี้มาบรรเทาทุกข์ของเพื่อนและน้องๆในโรงเรียนที่เหลือก็จะได้นำมาซ่อมบ้าน ใช้จ่ายในครอบครัว และ เก็บเป็นทุนการศึกษาจนสูงที่สุด