
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิต บอกว่า ส่วนมากหรือแทบทั้งหมดพฤติกรรมโชว์ของลับ หรือช่วยตัวเองในที่สาธารณะ เกิดจากเพศชาย ซึ่งมีปัญหาความมั่นคงภายใน ต่อการแสดง หรือ สร้างสัมพันธภาพกับเพศตรงข้ามอย่างปกติ แต่คนเหล่านั้นขาดความสามารถในส่วนนี้ และลึกๆ เเล้วเป็นพวกไม่มั่นใจในตนเอง ขี้อาย กลัว เก็บกดความรู้ทางเพศ และแสดงออกมาในรูปแบบที่ผิดปกติ เช่น ถ้ำมองหรืออวดอวัยวะเพศ
นพ.ยงยุทธ บอกว่า หากเผชิญกับพฤติกรรมเหล่านี้ อย่าตกใจ ส่งเสียงวี๊ดว้าย เพราะพวกเขาจะยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ที่ได้รับความสนใจ รวมทั้งยังเป็นแรงเสริมให้แสดงออก หรือ แสวงหาความตื่นเต้นทางเพศด้วยวิธีไม่ปกติต่อไป
ส่วนวิธีเอาตัวรอดแบบในละครหรือภาพยนตร์ ที่เลือกใช้คำพูดดูถูกอวัยวะเพศ เช่น ของเธอเล็กจัง ทำได้แค่นี้หรอ เพื่อหวังให้สูญเสียความมั่นใจนั้น คุณหมอบอกว่า ไม่ใช่ทางออกที่จะทำให้คนเหล่านี้เลิกพฤติกรรม แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ อย่าไปวี๊ดว้ายกระตู้วู้ แต่ต้องตั้งสติ ถ่ายภาพ หรืออัดคลิปเพื่อส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่านำไปโพสต์ทางโลกออนไลน์ เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบคนที่มีสำนึกพลเมืองทำ การจัดการด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดี และนำตัวผู้ป่วยไปบำบัดรักษา ซึ่งหมายความว่าสังคมจะมีคนแบบนี้ลดน้อยลง
สำหรับ พฤติกรรมโชว์ของลับ อนาจารในที่สาธารณะ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
ส่วนผู้ที่เผชิญหน้าเหตุการณ์เลวร้ายนั้น หากไปถ่ายภาพ บันทึกวิดีโอ เพื่อไปนำไปเผยแพร่ผ่านสังคมออนไลน์ต่อ ในทางกฎหมายนั้นก็ผิดเช่นกัน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 อนุ 4 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ โทษจำคุกสูงถึง 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มีคำแนะนำทางรอดสำหรับสาวๆ คือเซนเซอร์ภาพถ่าย และคลิปวิดีโออย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพียงเเค่ใบหน้า เเต่ต้องเบลอจนมองเเล้วไม่เห็นว่าเป็นพฤติกรรมอนาจารเลย หรือไม่อย่างนั้นก็เก็บภาพไว้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดี