svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

นักข่าวช่อง 3 เปิดใจ! หลัง"หมอเปรม"เฟสไลฟ์แก้ตัว ชี้แค่ดิ้นหนีตายเฮือกสุดท้าย

30 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันที่ 30 ก.ค. นายปราโมทย์ ศรีบุระ ผู้สื่อข่าวช่อง 3 เปิดใจหลังดูเฟสไลฟ์ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ โดยบอกว่า ตนในฐานะ 1 ใน 5 ของสำนักข่าวที่โดนหมอเปรมกักตัวไว้ในห้องทำงาน แล้วทำการถอดกางเกงผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ จนเหลือแต่กางเกงในแล้วช่วยกันรุมถ่ายภาพโป๊เพื่อให้เกิดความอับอายนั้น หมอเปรมยังมีหน้าไปออกเฟสไลฟ์สื่อสารกับคนทั้งประเทศ เพื่อแก้ตัวแบบหน้าด้านๆ ตามแบบฉบับของนักการเมืองปลิ้นปล้อน ซึ่งตนไม่ได้หมายถึงนักการเมืองทั้งหมด เพราะนักการเมืองดีๆ มีจำนวนมาก ส่วนนักการเมืองชั่วๆ ที่มีจำนวนน้อย กลับทำให้ภาพพจน์เสียหายทั่วประเทศ

นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า การใช้เฟสไลฟ์สื่อสารกับประชาชนของหมอเปรม เมื่อวานนี้ ตนมองว่ามันเป็นตลกร้ายของประชาชนทั้งประเทศ เป็นการดิ้นหนีตายเฮือกสุดท้ายของหมอเปรม ถ้าเป็นหมาก็เรียกว่าหมาจนตรอก ดิ้นรนจนสุดซอย แต่ยังหาที่ออกไม่ได้ ถ้าเป็นปลาก็เหมือนกับว่าน้ำกำลังแห้งขอด รีบกระเสือกกระสนหาแหล่งน้ำใหม่ เพื่อให้ต่อยอดลมหายใจ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาของการชี้แจงกับคนทั้งประเทศ หรือทั่วโลกก็ว่าได้ ตนสังเกตดูความคิดเห็นที่ขึ้นมาทางหน้าจอเรื่อยๆ หมอเปรมได้รับคำด่ามากกว่าคำชม ซึ่งคำชมก็มีอยู่บ้า' ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนหมอที่เคยเรียนด้วยกันมา หรือนักการเมืองที่เคยอยู่ด้วยกันให้กำลังใจ"สู้ๆ คุณหมอ" หรือให้กำลังใจนะ ประมาณนั้น ในทางกลับกัน ชาวบ้านที่เข้าไปคอมเม้นต์ด่าซึ่งมีจำนวนมากกว่า เพราะต้องการได้คำตอบเรื่องแต่งงานเด็ก และเรื่องข้อเท็จจริงถอดกางเกงผู้สื่อข่าว ยังมีหน้ามาแก้ตัวอีกว่า ไม่ได้ทำ

นักข่าวช่อง 3 เปิดใจ! หลัง"หมอเปรม"เฟสไลฟ์แก้ตัว
ชี้แค่ดิ้นหนีตายเฮือกสุดท้าย



"ส่วนเรื่องที่หมอเปรม ไปแจ้งความที่ สภ.บ้านไผ่ ว่าสื่อบุกรุกห้องทำงาน และข่มเหงบีบคั้นจิตใจให้แถลงข่าวที่ไร้สาระนั้น ผมมองว่าเป็นเรื่องตลก เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย ทั้งๆ ที่มีดีกรีเป็นถึงระดับด็อกเตอร์ เพราะสำนักงานเทศบาลเป็นสถานที่ราชการ เป็นที่สาธารณะ ใครๆ ก็สามารถเดินทางเข้าออกเพื่อติดต่อราชการได้ โดยไม่ต้องมีการแจ้งล่วงหน้าก็ได้ ส่วนการแถลงข่าวกลับหาว่า ผู้สื่อข่าวบังคับจิตใจให้แถลง ถ้าไม่ยากแถลงก็บอกว่าไม่แถลง ใครจะไปบังคับได้" นายปราโมทย์ กล่าวส่วนกรณีหมอเปรมไปยื่นเรื่องกับ กสทช.เพื่อให้นายกรัฐมนตรีใช้ ม.44 สั่งปิดสำนักข่าวต้นสังกัดของทั้ง 5 สำนัก ที่หมอเปรมใช้คำว่าไปบุกรุกห้องทำงานของตนเองนั้น เรื่องนี้สังคมน่าจะมองออกว่า ไม่สามารถทำได้ และเป็นไปไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หมอเปรม กลับขายความโง่ ชนิดไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร จนหลายคนไม่เชื่อว่าเป็นด็อกเตอร์ นอกจากหมอเปรมทำตัวเป็นคู่อริกับผู้สื่อข่าวในพื้นที่แล้ว ยังไม่พอ ยังทำเรื่องให้ท่านนายกรัฐมนตรี ทำการปฏิรูปสื่อทั่วประเทศ เป็นการขยายการเป็นคู่อริ เป็นศัตรูกับผู้สื่อข่าวทั่วประเทศแบบไม่รู้ตัว เพราะมีการตำหนิสื่อ ดูหมิ่นสื่อทั่วประเทศเพื่อให้มีการปฏิรูป ซึ่งเรื่องนี้ขอให้หมอเปรม กลับไปปฏิรูปตนเองให้มีความสง่างามก่อน จากนั้นค่อยมาปฏิรูปสื่อน่าจะเหมาะสมกว่า

logoline