svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"หมอเปรม" ประกาศท้าชน! "สื่อ" หลังตกเป็นจำเลยสังคม

28 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"หมอเปรมศักดิ์" ประกาศท้าชนสื่อมวลชน จะไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจสื่อ เพื่อปกป้องตัวเอง ขณะที่ กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนัดประชุมวันนี้ ก่อนเรียกคู่กรณีเข้าให้ข้อมูลสัปดาห์หน้า

ปลัดจังหวัดขอนแก่น สุรชัย วัฒนาอุดมชัย และประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ คุกคามสื่อมวลชน บอกว่า วันนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อวางแนวทางหรือ และกรอบในการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยจะเชิญคู่กรณีเข้าให้ข้อมูลภายในสัปดาห์หน้า โดยจะพยายามรวบรวมข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดคือ 15 วัน ก่อนนำเสนอต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กำธร ถาวรสถิตย์ เพื่อให้พิจารณาต่อไป
ส่วนความเคลื่อนไหวของ นพ.เปรมศักดิ์ วันนี้มีรายงานว่า เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้ว เพื่อไม่ต้องการให้สื่อไปดักรอสัมภาษณ์ที่อ.บ้านไผ่ พร้อมทั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า "ผมคุกคามสื่อ หรือว่าสื่อคุกคามผม?" และยืนยันว่า เคารพในการทำงานของสื่อมวลชนมาตลอด ในฐานะเป็นแหล่งข่าว และสื่อนั้นต้องการนำเสนอข่าว เข้าทำนองน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัฌชาศัย หนักนิดเบาหน่อยก็ต้องทนกันไป หลายครั้งก็หวานอมขมกลืน แต่ล่าสุด..สุดจะทนจริงๆ เพราะสื่อเล่นงานไม่ต่างไปจากการจับผมแก้ผ้า ประจานให้อับอายต่อหน้าธารกำนัล

"หมอเปรม" ประกาศท้าชน! "สื่อ" หลังตกเป็นจำเลยสังคม


หมอเปรมศักดิ์ ระบุว่า เมื่อสื่อคณะหนึ่งบุกรุกเข้ามาพบในห้องทำงานนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ในฐานะรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทำไมไม่สอบถามข้อเท็จจริงก่อน แล้วค่อยไปเผยแพร่ให้ครบถ้วนทุกด้าน แต่กลายเป็นว่าสื่อมวลชนไปเห็นภาพนำเสนอข่าวในทางเสียหาย เสมือนตกเป็นจำเลยสังคม
หมอเปรมศักดิ์ บอกว่า สมาคมสื่อที่เก่งกล้าสามารถในทางออกแถลงการณ์ประณามใครต่อใครไปทุกวงการ ยกเว้นพวกท่านกัน เพราะแมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวัน ดังนั้นจะไม่ได้จะไปรบราฆ่าฟันอะไรกับสื่อ เพียงแต่จะยืนหยัด ปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองเท่านั้น ซึ่งไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับตำรวจแล้ว ว่า สื่อบุกรุกคุกคามกดดัน วันนี้ได้สลัดความกลัวทิ้งไปแล้ว และยืนหยัดประกาศให้ทราบทั่วกันว่า หมดเวลาที่เราจะหงอ อยู่ใต้อำนาจอธรรมของสื่อแล้ว ได้เวลานับหนึ่งในการปฏิรูปสื่อ
ขณะที่ตำรวจจะเรียกสอบพยานในจุดเกิดเหตุเพิ่มเติ่ม หลังจากทั้งคู่กรณีได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งคดีนี้มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และคู่กรณีสามารถที่จะยอมความกันได้ หากทั้ง 2 ฝ่ายต้องการที่จะให้เรื่องยุติ

logoline