เจ้าหนี้เงินกู้ดอกโหด ทวงหนี้ไม่ได้ หินปาหลังคาบ้าน-เผา จยย.ลูกหนี้วอด

พบนางกาญจนา สุนันต๊ะ อายุ 43 ปี ผู้เสียหาย และเป็นเจ้าของบ้านที่ถูกข่มขู่ และถูกเผารถจักรยานยนต์ โดยบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว หลังคาบ้านถูกขว้างจนกระเบื้องมุงหลังคาแตก 1 แผ่น และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 หมายเลขทะเบียน กยษ 734 แพร่ ที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านถูกคนร้ายใช้น้ำมันเบนซินราดแล้วจุดไฟเผาจนเสียหายเกือบทั้งคัน และยังพบขวดเหล้าจำนวน 2 ขวดตกอยู่บริเวณข้างรถจักรยานยนต์ และพบขวดเหล้าตกอยู่บริเวณระเบียงบ้านอีก 1 ขวด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บขวดเหล้าทั้งหมดมอบให้พิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่ ตรวจหาลายนิ้วมือและพิสูจน์ว่าเป็นขวดที่บรรจุน้ำมันที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเผารถจักรยานยนต์คันนี้หรือไม่

ด้าน นางกาญจนา เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้กู้ยืมเงินกู้รายวันจากจำนวน 10,000 บาท แต่ได้รับเงินจริงแค่ 8,000 บาท เพราะหักดอกทันที 2,000 บาท โดยกำหนดจ่ายวันละ 500 บาท จำนวน 20 วัน แต่เมื่อจ่ายไปได้ 11 วัน เป็นเงินจำนวน 5,500 บาท ตนเกิดเงินหมุนไม่ทัน จึงขอผัดผ่อนเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อเย็นวานนี้ เจ้าหนี้รายนี้ได้มาหาที่บ้านช่วงเวลา 02.00 น. และประมาณ 05.00 น.วันเดียวกันก็มาทวงเงินอีกครั้ง โดยขณะที่ตนนอนหลับอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงหลังคาบ้านถูกสิ่งของขว้างกระทบเสียงดัง จึงสะดุ้งตื่นแล้วได้กลิ่นเหม็นไหม้ และควันไฟมาจากหน้าบ้าน จึงออกมาดูก็พบไฟกำลังลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้บริเวณหน้าบ้าน จึงเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วยกันดับไฟ จนสงบลง หลังจากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุคงเป็นกลุ่มเจ้าหนี้เงินกู้รายวันอย่างแน่นอน เพราะเคยพูดข่มขู่ว่าหากไม่จ่ายเงิน จะมีวิธีการทวงเงินที่กู้คืน เพราะก่อนหน้าก็เคยถูกเปิดก็อกน้ำที่บ้านทิ้งไว้

นางกาญจนา กล่าวอีกว่า สาเหตุการกู้ยืมเงินรายวันนั้น เพราะเมื่อ 5 ปีก่อนมีอาชีพทำนา และได้กู้เงิน ธ.ก.ส.มาทำนา แต่ปรากฏว่าขาดทุน และครอบครัวก็มีปัญหาหย่าร้าง ลูกไปอยู่กับสามี ส่วนตนจึงต้องรับภาระหนี้สินที่กู้ยืมมาหลายแสนบาท แต่เมื่อเห็นว่าอาชีพทำนาไปไม่ไหว จึงไปทำงานที่ร้านอาหารในช่วงเวลากลางคืน ส่วนการกู้เงินกู้รายวันนั้น เพื่อนำไปอุดเงินกู้ ธ.ก.ส. แต่ช่วงนี้หมุนเงินไม่ทัน จึงทำให้ไม่มีเงินจ่ายให้เจ้าหนี้เงินกู้รายวัน และวันนี้คงต้องย้ายที่นอนไปนอนที่อื่น เพราะกลัวว่าจะกลับมาข่มขู่อีก

ด้าน พ.ต.ท.ปกิต กล่าวว่า ได้ตั้งข้อหาผู้ก่อเหตุครั้งนี้ว่า ทำให้เสียทรัพย์ และข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความหวาดกลัว ไว้ก่อน พร้อมประสานชุดสืบสวนนำตัวเจ้าหนี้รายนี้มาให้เจ้าทุกข์ชี้ตัวว่าใช่หรือไม่ เนื่องจากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายใช้รถกระบะขับมาป้วนเปี้ยนก่อนเกิดเหตุ ซึ่งมี 2 คน สวมเสื้อมีหมวกคลุมปิดใบหน้า เบื้องตนชุดสืบสวนได้นำผู้ต้องสงสัยมาพิมพ์ลายนิ้วมือที่ สภ.เมืองแพร่ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐาน