svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

มท.1 เรียกถก! สั่งลุยแก้ไขน้ำท่วมกรุง เน้น 4 ข้อหลัก

27 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

23 มิ.ย. -- มท.1 เรียกถก "ทหาร-ตำรวจ-ปภ.-อาชีวะ- พ่อเมืองเขตปริมณฑล สั่งลุยแก้ไขน้ำท่วมกรุง เน้น 4 ข้อหลัก "แจ้งเตือน-สื่อสาร-ป้องกัน-ดำเนินงานแก้ไข"

 เมื่อเวลา 15.40 น.  ที่กระทรวงมหาดไทย มีการประชุมเตรียมความพร้อมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้แก่ ทหาร ตำรวจ กทม. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา ผู้บริหารระดับสูง และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตปริมณฑลโดยรอบกรุงเทพฯ โดยมีการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง                  โดยพล.อ.อนุพงษ์ กล่าวก่อนประชุมว่า  การหารือในครั้งนี้ต้องการแยกประเด็นแก้ปัญหา ได้แก่ ระบบระบายน้ำในกรุงเทพฯ จะมาดูว่าในช่วงที่ผ่านมาสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้อย่างเต็มขีดความสามารถ รวมถึงภายใต้สภาพที่เป็นอยู่หรือไม่ เช่น ท่อระบายน้ำ หรืออุโมงค์ใหญ่ยังไม่พอเพียง ยังไม่ได้เสริมสำหรับพื้นที่ที่มีท่อระบายน้ำขนาดเล็ก ปั๊มน้ำทำงานได้เต็มที่ไม่มีความเสียหายหรือไม่ ไฟฟ้าขัดข้องหรือไม่ รวมถึงระบบพร่องน้ำตามคลองต่าง ๆ เพื่อรองรับ และลงไปช่วยในจุดวิกฤตได้หรือไม่  อาจจะมีการติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มแล้วลดระดับน้ำในคลองเพื่อรอไว้เพิ่มได้หรือไม่ จะหารือกับผู้รับผิดชอบโดยตรง                   "ที่ผ่านมามีปัญหาประมาณ 2 ครั้ง เพราะต้องยอมรับว่า ฝนตกเต็มพื้นที่กรุงเทพฯจริง ๆ ไม่ได้เป็นการแก้ตัวแต่อย่างใด ทำให้แหล่งรับน้ำเต็ม การระบายน้ำก็ดำเนินการได้" รมว.มหาดไทย กล่าว และว่า ในเรื่องระบบการจราจร เมื่อฝนตกแล้ว จะต้องมีการประสานงานกับกรุงเทพฯ ถ้ากรุงเทพฯทราบว่าจะมีฝนตกในพื้นที่ต่าง ๆ แล้วมีปริมาณน้ำสะสมจนไม่สามารถระบายได้ โดยเฉพาะในช่วงเช้ามืด กทม.จะต้องแจ้งเตือนประชาชนเรื่องการใช้เส้นทางก่อน มีการปิดกั้นถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้รถติดเนื่องจากปริมาณน้ำที่สูง จากการสอบถามในเบื้องต้น พบว่ายังติดปัญหาไม่สามารถแจ้งเตือนประชาชนได้อย่างสอดคล้อง ทำให้การสัญจรเข้าไปติดล็อคถึง 36 จุดทั่วกรุงเทพฯ  

มท.1 เรียกถก!  สั่งลุยแก้ไขน้ำท่วมกรุง เน้น 4 ข้อหลัก

                                ส่วนการช่วยเหลือเมื่อประชาชนเข้าไปติดในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แต่อย่างที่กล่าวไป ก่อนหน้านี้การจราจรติดขัด 36 จุดทั่วกรุงเทพฯ ทำให้มีปัญหา ขณะเดียวกันกองทัพและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ก็จะช่วยในเรื่องของการจัดรถกับเรือ เข้าไปรับส่งด้วยเช่นกัน ให้ประชาชนสัญจรได้ อย่างไรก็ตาม เราจะพยายามทำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานได้เต็มที่ หวังว่าประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนน้อยลง บรรเทาให้สามารถใช้ชีวิตได้ และฝนที่ตกลงมาในแบบเต็มพื้นที่ก็ขอให้อย่ามีมาอีก สำหรับพื้นที่ที่เสี่ยงในปริมณฑล ท้องถิ่น หน่วยทหาร และ ปภ.จังหวัด ได้ลงไปช่วยดำเนินการ ให้พอคลี่คลายลงไปบ้าง ต่างกับปีที่ผ่านมาที่มีน้ำจากที่อื่นมาเป็นผลกระทบ แต่ครั้งนี้ฝนตกในพื้นที่จำนวนมาก   พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงความมั่นใจของประชาชนในกรุงเทพฯ ต่อการทำงานของม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ว่า ถ้าระบบระบายน้ำดำเนินการได้ตามแผน แต่ฝนยังตกเป็นจำนวนมากเต็มพื้นที่ กทม.จะต้องแจ้งให้ประชาชนทราบก่อน ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง หรือปิดการจราจรไม่ให้ประชาชนเข้าไปติด รวมถึงอำนวยความสะดวกในเส้นทางที่ใช้ได้ให้มากที่สุด ข้อผิดพลาดในวันนั้น น่าจะมาจากการไม่ได้แจ้งประชาชนอย่างกว้างขวาง เขาเลยออกจากบ้านแล้วไปติดอยู่บนถนน การที่จะแจ้ง ประมาณเวลา 03.00น. จะต้องสรุปสถานการณ์น้ำฝนได้ เช่น พื้นที่ตรงนี้ฝนหยุดตกก็คำนวณว่าน้ำที่ขังจุดนี้สามารถระบายออกได้หรือไม่ ทันหรือไม่ ถ้าไม่ทัน หรือเป็นอุปสรรคต้องแจ้งศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร(บก.02) เพื่อปิดถนน                             "สำหรับการสร้างความรับรู้ในเรื่องนี้ ทำยังไงจะกระจายข่าวไปถึงได้ เช่น ตอนเช้าประชาชนจะออกจากบ้าน ก็ดูโทรทัศน์ หรือฟังวิทยุได้ต้องเน้น เพราะหนังสือพิมพ์ก็ไม่ทัน เว็บไซต์ก็มีแจ้งอยู่บ้าง เรียกได้ว่า สื่อที่ส่งผลให้ประชาชนได้รู้ก่อนก็จะต้องเน้น สรุปสถานการณ์ตอนตีสาม ก่อนตีห้าต้องแจ้งแล้ว  มิฉะนั้นออกมาบนถนนแล้วก็จะติดขัด" รมว.มหาดไทย ระบุ

มท.1 เรียกถก!  สั่งลุยแก้ไขน้ำท่วมกรุง เน้น 4 ข้อหลัก

                                 เมื่อถามว่า ชาวกรุงเทพฯควรให้โอกาสผู้ว่าฯกทม.ในการทำงานหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวย้อนว่า ใครให้โอกาสล่ะ ต้องไปถามประชาชน ให้ตนไปตอบแทนประชาชนไม่ได้ ไม่รู้จะตอบยังไง ขอให้เห็นใจตนด้วย และขอย้ำว่า กทม.ยังแจ้งประชาชนไม่กว้างขวางพอ ตนเคยถามไปว่ามีปั๊มน้ำที่ใดเสียบ้าง เพราะได้ตกลงสัญญากันแล้วว่าปั๊มน้ำจะเสียไม่ได้ ขณะที่เรื่องไฟดับ ทางการไฟฟ้านครหลวงก็ยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ในไม่กี่นาที การประชุมหารือครั้งนี้ตนจะถามกทม. แต่เท่าที่ได้รับรายงานมาขณะนี้ยังไม่มีปั๊มน้ำเครื่องไหนไม่ทำงาน ไม่มีไฟในพื้นที่ไหนดับ ส่วนระบบพร่องน้ำได้รับการยืนยันมา 80 เปอร์เซ็นต์ สามารถรับน้ำได้พอเพียง แต่ต้องยอมรับว่าฝนตกมามาก ทำการระบายได้เท่านี้                                                          "กทม.ทำงานเต็มที่แล้ว แต่การแจ้งประชาชนยังไม่สามารถแจ้งเตือนเขาได้ ที่สังคมเขาค่อนข้างจะรับไม่ได้ หรือตำหนิ ก็เพราะไม่แจ้งเตือนเขาก่อน แล้วปล่อยให้ไปติดอยู่บนถนนกัน ปั๊มน้ำทำได้ทุกแห่งที่ลงไปในคลองใหญ่ระดับน้ำยังรับได้แต่มันทำได้แค่นี้ เพราะฝนตกเต็มพื้นที่ ไฟฟ้าก็ไม่มีที่ไหนดับ เหลืออย่างเดียวคือแจ้งประชาชนเขาไม่ได้หรืออย่างไร เขาออกจากบ้านแล้วไปติดบนถนน" รมว.มหาดไทย กล่าว                                                   ผู้สื่อข่าวถามว่า หากฝนตกคราวหน้า จะถือเป็นการวัดศักยภาพของกทม. หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้ากทม.ทำอย่างเต็มที่ตามความสามารถ ไม่ได้ขาดตกบกพร่องตามแผนที่วางไว้เลย ก็คงจะว่าไม่ได้ เพราะมันอยู่ที่ฝนตกลงมามาก แล้วถ้าเต็มพื้นที่จะเป็นปัญหา เราต้องให้ความยุติธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย แต่ถ้าทำแล้วอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆชำรุด หรือฝนตกมาไม่มากแล้วทำงานไม่ได้แบบนี้ต้องรับผิดชอบ                     

มท.1 เรียกถก!  สั่งลุยแก้ไขน้ำท่วมกรุง เน้น 4 ข้อหลัก


รมว.มหาดไทย ได้กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า เรามีเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในการประชุมแก้ปัญหาครั้งนี้ ดังนั้นจะขอพุ่งเป้าไปที่ กทม.  ต้องเตรียมการทางกายภาพเพื่อรับสถานการณ์ต่อจากนี้ เช่น ท่อระบายน้ำ ทางน้ำ การพร่องน้ำ  และระบบปั๊มน้ำ ต้องมีความพร้อม ส่วนการเตรียมการหน่วยทหาร ตำรวจ ปภ. และอาชีวะฯ  ต้องพร้อมรับแจ้งสถานการณ์จากกทม. อยู่ตลอด เพื่อให้พร้อมดำเนินการ ทางหน่วยงานตำรวจ และกทม. ถือว่ามีความชำนาญพื้นที่ในสภาพฝนตก รวมถึงการจราจร ก็ควรที่จะมีการประสานกันผ่าน บก.02 เพราะหน่วยงานที่มาร่วมช่วยเหลือประชาชนคงไม่สามารถไปยืนบนถนนได้ตลอดเวลา                    "กทม.ต้องประเมินฟันธงได้ว่า จะระบายน้ำได้ทันก่อนช่วงเช้าก่อนเวลาตี 5 หรือไม่ ถ้ารู้ว่า ประเมินไม่ทันแน่ ให้ประสานไปที่ บก.02 ให้มีการลิงค์กันตลอดเวลา  และหน่วยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าไปช่วยเหลือด้านการจราจร เมื่อบก.20 ทำการประมวลผลแล้วค่อยเปิดการจราจร หากยังไม่สามารถดำเนินการได้อีกก็จะนำเรือรับส่งเข้าไปช่วยอีกทาง เท่าที่ทราบ กทม. ไม่สามารถแจ้งประชาชนได้ จึงไม่ทันการปล่อยให้ประชาชนมาอยู่บนถนนก่อน เพราะฉะนั้นก็หวังให้สื่อมวลชนเข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย กทม.จะไม่รับผิดชอบ หรือเกินเหตุผลไม่ได้ อยากเน้น 4 ข้อหลัก1.การแจ้งเตือน 2.การสื่อสาร.3.การป้องกัน และ 4.การดำเนินงานแก้ไขช่วยประชาชน" รมว.มหาดไทย กล่าว                  

logoline