ทีมช่วยเหลือจึงวางแผนจัดกำลังพลโดยใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อเล็ก ขับลุยไปตามถนนบนไหล่เขาที่ถนนกลายเป็นทะเลโคลนระยะทางยาวกว่า 20 กิโลเมตร จนกลายเป็นเส้นทางอันตราย และมีฝนตกตลอดเส้นทาง
จนเวลาผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง ทีมช่วยเหลือจึงเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ ก็พบกับกลุ่มนักขี่รถวิบากจำนวน 3 คน พร้อมรถจักรยานยนต์วิบาก 3 คัน จอดจมกองโคลนอยู่ และทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรยจากการที่ต้องติดภายในป่านานหลายชั่วโมง โดยไม่มีอาหารและน้ำดื่ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทำการช่วยเหลือช่วยกันยกรถที่เสียหาย ไม่สามารถขี่ได้จึงนำขึ้นรถกระบะขับออกมาจากป่าในสภาพทุลักทุเล
จากการสอบถามหนึ่งในกลุ่มนักบิด ให้ข้อมูลว่า กลุ่มของตนได้ชักชวนกันไปขี่รถท่องเทียวในป่าลึก โดยขี่เข้าป่าไปในช่วงเย็น ซึ่งขณะนั้นท้องฟ้าไม่มีฝน และสภาพอากาศยังปกติ แต่เมื่อไปถึงปลายทาง และระหว่างขากลับ ได้เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เส้นทางกลายเป็นทะเลโคลน และยังเกิดน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงหลายจุด ทุกคนจึงต้องรีบขี่รถออกจากป่า โดยทิ้งระยะห่างกันพอสมควร แต่ก็สามารถลุยน้ำเสี่ยงชีวิตออกมาได้เพียง 7 คัน ที่เหลืออีก 3 คัน รถเสียติดอยู่กลางป่า จนขาดการติดต่อหายไปจากกลุ่ม
แต่ทั้ง 7 คันก็สามารถขี่รถรอดชีวิตออกมาได้ จึงรีบเข้าไปในหมู่บ้าน และรีบประสานขอความช่วยเหลือ จนเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนทั้ง 3 คนออกมาได้ โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม นายธนยศ ได้เตือนนักผจญภัยในช่วงนี้ให้ระมัดระวังกับเส้นทางป่าลึก และถนนไม่ดี อันเนื่องมาจากฝนตก ซึ่งไม่ควรเข้าไปในป่าลึกจนเกินไป