svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ตร.แจงยังใช้เบอร์ 191 ส่วน 911 ยังไม่ใช้

25 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากกรณีที่มีผู้แชร์ข้อความภาพ โดยมีการระบุว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน 191 เป็น 911 จนกลายเป็นกระแสสร้างวิพากวิจารณ์ และสร้างความสับสนให้กับประชาชนในสังคมเป็นอย่างมากนั้น

ที่กองกำกับการศูนย์รวมข่าว ชั้น3 อาคารศูนย์ควบคุมการจราจร (บก.02) ถ.วิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2559 พล.ต.ต.ภานุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. และ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผกก.ศร.บก.สปพ. ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงจากกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์ให้สังคมได้รับรู้ถึงข้อมูลที่ปรากฏนั้น ว่าไม่เป็นความจริง โดยยืนยันกรณีเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉิน 191 เป็น 911 ไม่เป็นความจริง และพร้อมที่จะเอาผิดผู้เผยแพร่ โดยฝากเตือนประชาชนห้ามโพสต์ หรือแชร์อาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พล.ต.ต.ภานุรัตน์ กล่าวว่า ข้อความที่ปรากฏว่าหมายเลขฉุกเฉิน แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 เปลี่ยนมาใช้หมายเลข 911 เพื่อให้เป็นหมายเลขสากลนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยได้อธิบายว่า ในการเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินนั้น ต้องผ่านการเข้าสู่กระบวนการร่างกฏหมายตาม พ.ร.บ.กำหนดหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งมีกสทช.เป็นผู้กำหนดและอนุญาตเท่านั้น และเนื่องจากร่างพระราชบัญญัติกำหนดหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ ยังไม่มีการกำหนดว่า จะใช้หมายเลขโทรศัพท์ใดเป็นหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันร่างฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่เข้าสู่ที่ประชุมในสภา ทั้งนี้ จากการประชุมรอบล่าสุดกับคณะกรรมการพิจารณาร่างที่เกี่ยวข้อง ก็มีแนวโน้มจะใช้หมายเลข 191 มากกว่า เพราะหากใช้หมายเลขอื่น ก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณอีกหลายร้อยล้านบาทเพื่อจัดทำระบบใหม่ และประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน ส่วนข้อมูลที่ปรากฏว่าการเปลี่ยนหมายเลขดังกล่าวเพื่อให้เป็นหมายเลขสากลนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้หมายเลข 911 ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดาเท่านั้น ส่วนยุโรปก็ใช้หมายเลข 112 เป็นส่วนใหญ่ สำหรับประเทศไทยแล้ว หมายเลข 191 ได้ถูกกำหนดใช้มาเป็นระยะเวลามายาวนานและคนไทยส่วนใหญ่จะคุ้นเคยเป็นอย่างดี จึงยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนหมายเลขดังกล่าว นอกจากนี้พล.ต.ต.ภานุรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า หมายเลขฉุกเฉิน 191 ยังไม่ได้ผ่านการกำหนดให้เป็นหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ หากมีการกำหนดใช้แล้ว หมายเลขดังกล่าว จะถูกกำหนดให้แจ้งเหตุเพียง 3 เหตุ ได้แก่ เหตุไฟไหม้ เหตุอาชญากรรม หรือคดีทางอาญา และเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ เท่านั้น หากผู้แจ้งโทรมาแจ้งนอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้วอาจจะมีความผิดด้วย ซึ่งถือว่าที่ผ่านมาทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ยังคับใช้ข้อบังคับดังกล่าว พล.ต.ต.ภานุรัตน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีผู้ไม่หวังดีหรือนำข้อมูลเท็จเผยแพร่ออกสู่สาธารณะชนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการเอาผิดผู้ที่กระทำการเผยแพร่ เนื่องจากเข้าข่ายในการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตราที่ 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่เห็นห้ามนำไปโพสต์หรือแชร์ต่อ ซึ่งอาจจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายอีกด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผกก.ศร.บก.สปพ. ไปร้องทุกข์กับ ปอท. เพื่อให้ติดตามจับกุมผู้ที่สร้างข้อความภาพและบิดเบือนข้อมูล มาดำเนินการตามกฎหมาย

logoline