
"ที่ผ่านมาได้แต่แนะนำฝากย้ำเตือน ประชาสัมพันธ์การใช้สื่ออนไลน์ในโลกโซเชียลอย่างระมัดระวัง ต้องมีวิจารณญาน อย่าเชื่ออะไรโดยง่าย ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้อื่น โลกโซเชียลทุกวันนี้มันเป็นโลกของตัวตน เป็นโลกเสมือนจริง การที่เราจะเข้าไปควบคุมดูแลเป็นเรื่องยาก หากเข้าไปมากก็หาว่าไปลุกล้ำสิทธิส่วนบุคคล แต่พอไม่มีใครเข้าไปควบคุมดูแล พอมีเคสเกิดเรื่องขึ้นมาจนเป็นข่าวก็จะให้เราเข้าไปควบคุม ผู้ปฏิบัติเลยไม่รู้ว่า จุดตรงกลางอยู่ตรงไหน เพราะทุกคนต่างมีสิทธิเสรีที่จะเข้าไปดูอะไรก็ได้ทั้งนั้นในโลกโซเชียล ผมมองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับเคสนี้ไม่ใช่เป็นการหลอกลวง น่าจะเป็นเรื่องของการสมยอมมากกว่า เพราะคนที่เป็นลูกก็อายุเกิน 20 ปีบรรลุนิติภาวะแล้ว เรื่องที่มีการแจ้งความกันก็เป็นเรื่องระหว่างแม่กับลูก "
ผบก.ปอท.กล่าวต่อว่าความทันสมัยของเทคโนโลยีการสื่อสารทุกวันนี้ ทำให้เราอยู่ในโลกเสมือนจริง เพราะการติดต่อสื่อสารสะดวก รวดเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจค้าขายออนไลน์สามารถทำได้ง่ายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในสังคมยุคไซเบอร์ เมื่อความสะดวกทันสมัยที่ว่านี้มีประโยชน์มหาศาล ก็มีโทษมากมายเช่นเดียวกัน เสมือนดาบสองคม เพราะเหล่ามิจฉาชีพมีวิวัฒนาการตามเทคโนโลยีี ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแล้วหลายรายขอเตือนประชาชนให้ระวังตัวเองท่องจำ "คาถากันภัย" ของคนใช้โซเชียลมีเดียให้ขึ้นใจ ไม่ตกเป็นเหยื่อเหล่ามิจฉาชีพ คือ 1.อย่าโง่ 2.อย่าซื่อ และ3.อย่าขี้เกียจ