"ดงพญาเย็น"พ้นถูกขึ้นบัญชีภาวะอันตรายอีก 1 ปี

บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี เป็นหนึ่งในสถานที่เก็บไม้พะยูงของกลางที่เจ้าหน้าที่ ตรวจยึดจับกุมจากขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง มาตลอด 4 ถึง 5 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานบอกว่า น้อยครั้งที่จะจับตัวของผู้กระทำความผิดได้ ทิ้งไว้แต่เพียงแผ่นไม้พะยูง ที่ยังมีร่องรอยเชือกผูกสะพายหลังขณะขนย้ายออกจากป่าไม้ของกลางมีจำนวนมากจนแทบไม่มีที่จะเก็บ ไม้บางแผ่นมีชื่อของผู้ขนไม้ เป็นภาษากัมพูชา อุทยานแห่งชาติทับลานยอมรับว่า ผืนป่าทับลานเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการตัดไม้พะยูงมากที่สุด โดยขบวนการลักลอบตัดไม้ส่วนใหญ่มาจากกัมพูชา หากสามารถขนแผ่นไม้พะยูงออกจากป่าได้สำเร็จ ผู้ขนจะได้ค่าตอบแทนเพียงแผ่นละหมื่นกว่าบาท ขณะที่นายทุนนำไปขายต่อในมูลค่าสูงถึงแผ่นละหนึ่งล้านบาท
พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทับลาน ประมาณ 1,390,000 ไร่ เป็นหนึ่งในผืนป่าดงพญาเย็น เขาใหญ่ ซึ่งต้นพะยูงในป่าทับลาน ถือเป็นป่าไม้พะยูงที่สมบูรณ์ ผืนสุดท้ายของประเทศไทย ที่เหลือราว 1 หมื่นต้นปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงที่เกิดขึ้นกับป่าทับลานในเวลานี้ ทำให้คณะกรรมการมรดกโลกเห็นว่าไทยปล่อยปละละเลย ไม่ปราบปรามอย่างจริงจัง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในผืนป่าที่มีความสำคัญที่ได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลก

เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยกับเราว่า ประเทศไทย มีข้อมูลใหม่ ชี้แจงต่อคณะกรรมการมรดกโลก เพื่อไม่ให้กลุ่มป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกในภาวะอันตราย
ผลสำรวจและนับไม้พะยูงในป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ พบว่า ยังมีปริมาณกว่า 57,000 ต้นคิดเป็นร้อยละ 16 โดยมีประชากรไม้ขนาดต่างๆมากพอที่จะไม่สูญพันธุ์

เอกอัครราชทูต กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย นำข้อมูลเหล่านี้ เดินสายชี้แจง กับคณะกรรมการทั้ง 21 ชาติ รวมทั้งตัวแทนของไอยูซีเอ็น ก่อนหน้าการประชุมเพียง 2-3 วัน ในที่สุดผืนป่า ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ก็ไม่ถูกขึ้นบัญชีมรดกโลกในภาวะอันตรายในปีนี้ แต่ไทยต้องมีแผนปฏิบัติการในการป้องกันการลักลอบตัดไม้พะยูง ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน และรายงานผลการดำเนินงาน ไปยังศูนย์มรดกโลก ที่ประเทศฝรั่งเศส ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี 2560