สมาคมอนุรักษ์นกฯโต้ "วิกรม" แจงนกเงือกสีน้ำตาลในภาพ ไม่พบที่เขาใหญ่

ยังคงมีความคิดเห็นต่อเนื่องกรณีนายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจ นักคิด และนักเขียนชื่อดัง ถ่ายภาพคู่กับนกเงือกสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ล่าสุดเพจ Bird Conservation Society of Thailand (BCST) ซึ่งเฟสบุ๊คของสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อมูลเมื่อคืนที่ผ่านมา ( 14 มิ.ย. 59) กรณีนกเงือกสีน้ำตาลของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ซึ่งได้ออกมาชี้แจงทางเฟสบุคส่วนตัวว่าเป็นนกที่ถูกพบบริเวณไร่ ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตามที่ระบุในโพสท์นี้ https://www.facebook.com/VikromKromadit/posts/1002541599813960ทางสมาคมอนุรักษ์นกฯ ขออนุญาตชี้แจงในเชิงวิชาการเพราะเห็นว่ามีความคลาดเคลื่อนในเรื่องของข้อมูล เนื่องจากนกเงือกสีน้ำตาลตัวที่ปรากฏอยู่ในภาพของคุณวิกรมนั้น เป็นนกเงือกสีน้ำตาลที่มีชื่อว่า Tickell's Brown Hornbill (Ptilolaemus tickelli) ซึ่งมีถิ่นกระจายพันธุ์เฉพาะบริเวณป่าทางตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่นกเงือกสีน้ำตาลที่พบได้ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นชนิดที่มีชื่อว่า นกเงือกสีน้ำตาลคอขาว หรือ Austen's Brown Hornbill (Ptilolaemus austeni) ที่มีถิ่นกระจายพันธุ์จำกัดอยู่เฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งกลุ่มป่าดงพญาเย็น
นอกจากนี้ ลักษณะรูปร่างหน้าตาของนกเงือกสีน้ำตาลทั้ง 2 ชนิด ก็แตกต่างกันอีกด้วย โดยนกเงือกสีน้ำตาลคอขาวที่พบในบริเวณเขาใหญ่ หากเป็นนกเพศผู้ จะมีลำคอเป็นสีขาวเห็นได้ชัดเจนตามชื่อ ส่วนนกเพศเมียถึงแม้จะมีคอเป็นสีน้ำตาล แต่ใบหน้าและคางจะเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ ไม่ใช่สีน้ำตาลอมส้มเห็นได้ชัดเจนเหมือนนกเงือกสีน้ำตาลที่พบทางภาคตะวันตก

สมาคมอนุรักษ์นกฯ ยังโพสต์ข้อความว่าการระบุว่านกเงือกสีน้ำตาลตัวนี้บินเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ไร่ซึ่งอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เองนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะการกระจายพันธุ์ของนกทั้งสองชนิดนี้แยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง โดยไม่มีกลุ่มป่าที่เอื้อต่อการกระจายพันธุ์ให้ข้ามไปหากันได้ ทางสมาคมอนุรักษ์นกฯ จึงอยากวิงวอนให้มีการดำเนินการตรวจสอบในขั้นต่อไป เพราะนกเงือกทุกชนิดในเมืองไทยล้วนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย
ขณะที่สมาชิกเพจดังกล่าวได้แสดงความเห็นว่า ที่สมาคมให้ข้อมูลมา มันเป็น Fact ซึ่งทำให้รู้แหล่งที่มาของนก แต่ปัญหามันอยู่ที่ คำชี้แจงของนายวิกรมนี่แหละ คำพูดที่ ว่า ไม่รู้ที่มาที่ไป อาจเป็นนกของคนแถวนั้น ก็เป็นได้ คนแถวนั้น ก็ไม่รู้ว่ามันไปเอามาจากป่าตะวันตก หรือเปล่า
"กฎหมายบ้านเราเรื่องนี้ก็อ่อน ครับ ต้องแก้กฎหมายก่อนเลยครับ ใครมีไว้ครอบครอง ไม่จำเป็นต้องขัง ไม่ต้องหาที่มาที่ไป คุณมีไว้ที่บ้าน ก็ผิดแล้วครับ คุณจะสงสาร รับเลี้ยง ก็ต้องผิดครับ คุณต้องส่งคืน ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างเดียว" สมาชิกเฟสบุ๊ครายหนึ่ง กล่าว

ด้าน.พ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา และกรรมการมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก กล่าวว่า นกเงือกพันธุ์ที่นายวิกรม ครอบครองนั้น เป็นนกเงือกสีน้ำตาล ซึ่งไม่มีทางถูกพบได้ในพื้นที่เขาใหญ่อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นนกเงือก ที่มีถิ่นที่อยู่บริเวณป่าตะวันตก เช่น ห้วยขาแข้ง แก่งกระจาน จึงอยากให้กรมอุทยานฯ ดำเนินคดีทางกฎหมายกับนายวิกรม เพราะถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นแบบอย่างของใครหลายคน การโพสต์ภาพลักษณะนั้นป็นการสร้างค่านิยมที่ผิด

ก่อนหน้านี้ นางเตือนใจ นุชดำรงค์ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์เนชั่นทวีว่า กรณีพบนกเงือกสีน้ำตาล สัตว์ป่าคุ้มครองครอง ภายใต้กฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 อยู่ภายในบ้านน้องชายนายวิกรม ที่เจ้าตัวกล่าวอ้างว่า นกตัวนี้ บินไม่ได้และตกอยู่แถวไร่แถวเขาใหญ่ น้องชายจึงเก็บมาเลี้ยงไว้นั้น ยอมรับว่ากรมอุทยานฯไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด
"เรื่องการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะข้อความที่บอกว่านกตัวนี้มาเอง อาจสื่อได้ว่าเป็นการเจตนาไม่ครอบครอง เพราะไม่ได้นำใส่กรงกักขังหน่วงเหนี่ยว แม้ระหว่างที่นกตัวนี้อยู่ที่บ้านไม่แจ้งครอบครอง ก็ไม่มีความผิด" นางเตือนใจ กล่าว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้ทางสำนักสัตว์ป่าและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 เข้าไปตรวจสอบว่าเป็นนกเงือกชนิดใด มีเอกสารครอบครองหรือไม่ ส่วนเรื่องที่นายวิกรมอ้างว่า คนงานเก็บนกเงือกมารักษาเพราะนกได้รับบาดเจ็บนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น หากเป็นเป็นนกป่าจริงคงไม่เกาะนิ่งและเชื่องขนาดนั้น แต่จะเปิดโอกาสให้นายวิกรมได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวก่อน