คม ชัด ลึก : โยนเผือกร้อน "คดีธัมมชโย"
ขณะนี้ทุกฝ่ายเห็นตรงกันแล้วว่า พระธัมมชโยเล่นเกมยื้อเวลา ในข้อหา สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร หลังมีชื่อเป็นผู้รับเช็คบริจาคของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ด้วยการไม่เข้ามอบตัวต่อดีเอสไอ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ดังนั้น ดีเอสไอจึงทำแผน 5 ขั้นตอนเพื่อเข้าจับกุมพระธัมมชโย ซึ่งแผนการดังกล่าว สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และยังเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระธัมมชโย อีกทั้งยังเป็นกรรมการเถรสมาคม จะตัดสินใจอย่างไร
พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย กล่าวว่า จากกรณีที่มีการเสนอให้ สมเด็จช่วง เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยให้พระธัมมชโยเข้ามอบตัวนั้น จริงๆ แล้วไม่ต้องถึงสมเด็จช่วง เนื่องจากตามกระบวนการปกครองของสงฆ์นั้น เจ้าอาวาสอยู่ภายใต้อาณัติของ เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค เจ้าคณะหน ตามลำดับ ซึ่งมีอำนาจ ปลด ถอดถอนจากตำแหน่ง จับสึกได้
ดังนั้น ควรจะให้ฝ่ายปกครองของสงฆ์ดำเนินการไปตามลำดับของการปกครอง ต้องให้ฝ่ายต่างๆ เหล่านี้แสดงความสามารถในการที่จะทำให้สังฆมณฑลสะอาด สงบ และเรียบร้อย ในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้กำกับดูแลวัดในเขตปกครองของตน
กรณีนี้ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีจะต้องออกมาแจ้งให้บุคคลผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา กระทำตามกฎระเบียบมหาเถรสมาคม
บทบาทของ เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค เจ้าคณะหน ไม่ต้องรอให้ใครมาร้องเรียน เหตุการณ์อย่างนี้ออกมาดำเนินการตามหน้าที่ได้ทันที หากไม่ออกมาถือว่า ละเว้น ละเลย เพิกเฉยต่อหน้าที่
ไม่จำเป็นต้องรอมติจากมหาเถรสมาคม แล้วสั่งการลงมา
ชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือจากดีเอสไอแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (27 พ.ค.) ส่วนรายละเอียดในหนังสือยังไม่สามารถเปิดเผยได้
อย่างไรก็ตาม คณะเลขาฯ ของมหาเถรสมาคม จะเป็นผู้กลั่นกรองในการที่จะนำเสนอเรื่องต่างๆ
การปกครองของคณะสงฆ์ มีการแบ่งเป็นลำดับชั้น ควรเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ควรข้ามขั้นตอนให้ สมเด็จช่วง เข้ามาดำเนินการกรณีของพระธัมมชโย
