"บิ๊กต๊อก" ย้ำ! จนท.สอบ ปม "ธัมมชโย" เป็นอำนาจหน้าที่ ไม่ควรกลัว

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์จะบานปลาย ภายหลังพระธัมมชโยอ้างอาการป่วยไม่ได้เข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหารับของโจรต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) หลังถูกออกหมายจับ ว่า ทุกคนต้องหันมาใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งธัมมชโยก็ใช้สิทธิของตัวเอง ซึ่งถือเป็นกระบวนการยุติธรรมอีกอย่างหนึ่งที่สามารถทำได้ การที่ธัมมชโยทำแบบนี้ดีกว่าใช้รูปแบบอื่นหรือใช้เทคนิคมาทำให้เกิดปัญหา ตนมองว่าธัมมชโยพยายามต่อสู้โดยกระบวนการยุติธรรม ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะท้ายที่สุดแล้วกระบวนการยุติธรรมจะตอบโจทย์ทุกอย่างเอง หากธัมมชโยยื่นเรื่องต่อศาล ทุกคนก็ต้องเคารพ และวันนี้เมื่อศาลออกหมายจับ ดีเอสไอก็ต้องดำเนินการ หากศาลสั่งให้ถอนหมายจับก็ต้องถอน ถ้าศาลรับ ศาลก็จะต้องเรียกพนักงานสอบสวนมาว่ากัน ถ้ายังอยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็ไม่มีปัญหา เพราะถ้าใช้อย่างอื่นก็คงไม่เหมาะ ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นปัญหาและใบรับรองแพทย์ของธัมมชโยเองก็ต้องมีการสอบสวนให้ละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าหน้าที่สอบสวนไม่ควรจะกลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ มีอำนาจแล้วจะไปกลัวอะไร แต่ถ้าจำเป็นต้องตัดสินใจเข้าไปถึงในวัดแล้วกลับมากลัว จึงไม่เข้า ผมว่าคงไม่ถูก ผมไม่เชื่อว่าเขาจะทำอะไรเพราะเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ปัญหายุ่งยากขึ้นไปอีก พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

เมื่อถามว่า คิดว่าปัญหาดังกล่าวจะยืดเยื้อยาวนานหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะทุกคนพยายามใช้กระบวนการยุติธรรม ซึ่งหากอยู่ในรูปแบบนี้แม้จะยาวนานก็ไม่เป็นไร ขอให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบ อย่าลืมว่าคดีดังกล่าวสืบเนื่องพัวพันมาตั้งแต่การทุจริตในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทุกอย่างเป็นไปตามลำดับขั้นตอนต้องมองในภาพรวม อย่ามองแค่ประเด็นนี้ประเด็นเดียว เรื่องดังกล่าวต้องอดทนกับมัน เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าบรรดาลูกศิษย์ธัมมชโยจะก่อปัญหาจนบานปลาย รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ลูกศิษย์ของธัมมชโยก็รัก และเคารพ ธัมมชโย แต่ไม่อยากให้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายและเจ้าหน้าที่เองจะต้องใช้วิธีการเจรจา แต่ตนบอกแล้วว่าวัดนั้น ไม่ใช่ซ่องโจรที่จะมีการจับมือปืน โจร ผู้ร้าย ผู้ก่อการร้าย ถึงขนาดนั้น ในวัดคงไม่มีอะไรถึงขนาดนั้น