"พุทธะอิสระ"ร้องดีเอสไอ! อายัดทรัพย์"ธัมมชโย-วัดธรรมกาย" จนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ

เมื่อเวลา 13.00 น. พระพุทธอิสระเข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษทเป็นตัวแทนรับหนังสือ ทั้งนี้พระพุทธะอิสระขอให้พนักงานสอบสวนคดีรับของโจรและฟอกเงินจากการยักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำกัด มีคำสั่งอายัดทรัพย์พระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายไว้จนกว่าการพิจารณาคดีจะแล้วเสร็จ

เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า พระธัมมชโยอาจหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะทางวัดพระธรรมกายได้นำแพทย์จากยูเอ็นเข้ามาตรวจร่างกายเพื่อโต้แย้งในประเด็นสิทธิมนุษยชนของผู้ป่วย และร้องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในชั้นสอบสวน รวมถึงการล่ารายชื่อร้องขอความเป็นธรรมจากประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา จึงทำให้สมาชิกสหกรณ์กว่า 100 คน มีความเป็นห่วงว่าจะไม่ได้รับเงินคืน และอาจเป็นไปได้ว่าพระธัมมชโยจะหลบหนีคดีเช่นเดียวกับอดีตพระยันตระและอดีตพระเณรคำ โดยไปรวมกันอยู่ในประเทศที่เป็นศูนย์รวมของพวกปราชิก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พระพุทธอิสระยังได้สอบถามเพิ่มเติมประเด็นการอาพาธของพระธัมมชโยว่า จำเป็นต้องให้รักษาตัวให้หายจากอาการอาพาธก่อนหรือสามารถเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีได้เลย. ทางด้านพ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า จะนำคำร้องเสนอให้พนักงานสอบสวนพิจารณาว่าจะมีอำนาจอายัดทรัพย์ระหว่างการสอบสวนหรือไม่ ส่วนประเด็นการแจ้งข้อหากับพระธัมมชโย ซึ่งแจ้งอาพาธตามกฎหมายจะต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้แล้วเสร็จ ส่วนประเด็นการรักษาพยายาลเป็นข้อปลีกย่อยที่จะดำเนินการต่อไป

หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวว่า อาตมาเชื่อว่าพระธัมมชโยมีอาการป่วยจริงเพราะป่วยมานานแล้ว แต่ไม่เชื่อว่าป่วยจนขาเน่า เพราะใบหน้ายังผ่องใสหากบริสุทธิ์ใจควรเปิดผ้าห่มให้เห็นใบหน้าพร้อมกับขาทั้ง 2 ข้าง การเปิดให้เห็นภาพทีละขาแบบนี้ ผู้ที่อยู่ในวงการแสดงและวงการกราฟฟิคก็สามารถทำได้. อาตมาไม่เชื่อจะทำอย่างไรก็ไม่เชื่อ กรณีพระธัมชโยในปี 2541 กองปราบฯนำกำลังคอมมานโดไปล้อมจับแต่ก็มีโล่มนุษย์ออกมาป้องกัน จนกองปราบฯต้องถอยกลับ

สุดท้ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้นต้องขอหารือกับสมเด็จฯวัดชนะสงคราม จนกระทั่งสมเด็จฯวัดชนะสงครามต้องมีบัญชาเด็ดขาดว่า ถ้าไม่มามอบตัวต้องสึก. เขาก็มามอบตัวแต่มีเงื่อนไขว่า มอบตัวแล้วต้องให้ประกันทันทีภายในวัดชนะสงคราม นี่คือเรื่องจริงที่มีมาในอดีต ดังนั้นพฤติกรรมดังกล่าวมันมีมาตั้งแต่ต้นแล้ว ก็เลยใช้มุขเดิมคิดว่าจะรอดอีก ถ้าดีเอสไอยอมก็จะต้องให้ประกันกันในวัดพระธรรมกายอีก มันเป็นชนชั้นอภิสิทธิ์เกินไปหรือเปล่า มันเป็นมุขเก่า ไม่ใช่มุขใหม่เลย