svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ทปสท.เผยผลวิจัย ชี้ชัดกลับไปเปิด-ปิดภาคเรียนแบบเดิม

25 เมษายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทปสท.เผยผลวิจัย ชี้กลับไปเปิด-ปิดภาคเรียนแบบเดิม ระบุเปิด-ปิดภาคเรียนตามอาเซียนกระทบต่ออุดมศึกษาอย่างมาก แจงไม่เห็นด้วยร้อยละ 86.33 ลั่นอำนาจการกำหนดช่วงเวลาเปิดภาคเรียนอยู่ที่สภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง เตรียมส่งผลวิจัยแก่ศธ. ,ทปอ., ทปอ.มรภ. และอธิการบดีทุกแห่งภายในสัปดาห์นี้

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 59 ผศ.ดร.รัฐกรณ์ คิดการ ประธานที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย(ทปสท.)กล่าวว่า ที่ประชุมทปสท. ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้นำเสนอผลการวิจัยเกี่ยวกับ ผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนการเปิดภาคเรียนของสถาบันอุดมศึกษา ภายหลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยสำรวจความคิดเห็น ผู้มีส่วนได้เสียจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน รวม 48 สถาบันพบว่า ร้อยละ86.33 ไม่เห็นด้วยกับการให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ยังคงเปิด-ปิดภาคเรียน ตามกลุ่มภูมิภาคอาเซียน และร้อยละ13.67 เห็นด้วยเปิด-ปิดภาคเรียนตามกลุ่มภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ เมื่อถามการเปิด-ปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยตามภูมิภาคอาเซียน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต อาชีพ ขนบธรรมเนียม ประเพณี สังคมและวัฒนธรรมของไทย พบว่าร้อยละ 62.33 คิดว่าการเปิด-ปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยตามภูมิภาคอาเซียน ส่งผลกระทบต่อ และร้อยละ 37.67 คิดว่าไม่ส่งผลกระทบส่วนหากจำแนกรายภูมิภาค พบว่าทุกภูมิภาคมีผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนการเปิดภาคเรียนของสถาบันอุดมศึกษา
โดยภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ ภาคเหนือ ภาคใต้ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพบว่า ประโยชน์ที่ได้จากการเปิดภาคเรียนของสถาบันอุดมศึกษาตามมหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียน น้อยมากที่สุด ได้แก่ นักศึกษาสามารถไปศึกษาต่อต่างประเทศมากขึ้น รองลงมา สถาบันมีการแลกเปลี่ยนอาจารย์มากขึ้น การแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างประเทศมากขึ้น มีนักศึกษาต่างชาติมาศึกษามาศึกษาในสถาบันการศึกษาของไทยมากขึ้น และความเป็นสากลสอดคล้องกับประชาคมอาเซียน
ผศ.ดร.รัฐกรณ์ กล่าวต่อว่า โดยสรุป ผลการวิจัยดังกล่าวและผลการหารือกันของทปสท. พบว่าการเปิดภาคเรียนตามอาเซียนส่งผลกระทบเกิดปัญหามาก ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้สถาบันอุดมศึกษาควรกลับมาเปิดภาคเรียนตามเดิม อย่างไรก็ตาม อำนาจการกำหนดช่วงเวลาเปิดภาคเรียนอยู่ที่สภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ต้องรอดูว่าสถาบันอุดมศึกษาตัดสินใจอย่างไร
และภายในสัปดาห์นี้ ทปสท. จะเสนอผลวิจัยและมติดังกล่าวให้ รมว.ศึกษาธิการประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ(ทปอ.มรภ.) ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(ทปอ.มทร.) รวมทั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินใจในการปรับเปลี่ยนการเปิด-ปิดภาคเรียนให้มีความเหมะสมสอดคล้องกับบริบท ลดปัญหาการศึกษาไทยต่อไป

logoline