svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

อบจ.ขอนแก่น รุดตรวจสอบ! เหตุสารเคมีระเหย ในสระว่ายน้ำ

14 มีนาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อบจ.ขอนแก่น รุดตรวจสอบเหตุสารเคมีบำบัดน้ำของสระว่ายน้ำภายในสนามกีฬากลางจังหวัดระเหย ทำให้เด็กนักเรียนกว่า 20 คนที่กำลังฝึกว่ายน้ำสูดดมกลิ่นเข้าไปจนเกิดการอาเจียน เป็นลมหมดสติ เจ้าหน้าที่ต้องหามส่งโรงพยาบาลกว่า 10 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นพบฝาปิดถังสารเคมีปิดไม่สนิท คาดเกิดจากปฏิกิริยาความร้อน ขณะเด็กที่ได้รับสารเคมี 2 ราย แพทย์ยังต้องดูแลใกล้ชิด


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 มีนาคม 2559 นางพัฒนาวดี จันทร์นวล ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 ขอนแก่น สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบสระว่ายน้ำภายในสนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น หลังเกิดเหตุสารเคมีที่ใช้สำหรับบำบัดน้ำของสระว่ายน้ำได้เกิดการระเหยออกมาจากถัง ทำให้เด็กนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 8 - 12 ปี จำนวน 10 คน และเจ้าหน้าที่ประจำสระว่ายน้ำ 3 คน สูดดมกลิ่นสารเคมีเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดการอาเจียน และบางรายเป็นลมหมดสติ เจ้าหน้าที่ต้องประสานหน่วยกู้ชีพและรถฉุกเฉินเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่นและโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา 
ล่าสุดมีรายงานว่า ยังมีเด็กนักเรียนที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ จำนวน 2 คน คือ ด.ช.พาดล อรุณยะเดช อายุ 12 ปี และ ด.ช.ธีรพล บุญมี อายุ 10 ปี เนื่องจากได้สูดดมสารเคมีเข้าไปมากกว่าคนอื่นๆ
จากการสอบถามนางสาวอนุรักษ์ ซุยกระเดื่อง ครูอาสาพัฒนากีฬา องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หนึ่งในผู้ดูแลสระว่ายน้ำ และเป็นหนึ่งในผู้ประสบเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มีการนำสารเคมีที่จะใช้สำหรับบำบัดน้ำของสระว่ายน้ำใส่ถังมาตั้งไว้ห่างจากขอบสระประมาณ 3 เมตร ซึ่งแต่ละถังมีสารเคมี ประกอบด้วย โซดาแอด 2 ถัง ถังละ 15 กิโลกรัม สารส้ม 1 ถัง จำนวน 10 กิโลกรัม และจุลสี 1 ถัง จำนวน 5 กิโลกรัม เพื่อรอที่จะนำไปเทลงในสระว่ายน้ำหลังจากหมดเวลาให้บริการ 
ในเวลา 20.00 น. กระทั้งเวลาประมาณ 19.30 น. เริ่มมีกลิ่นของสารเคมีคละคลุ้งไปทั่วบริเวณสระว่ายน้ำ และมีเด็กนักเรียนเริ่มเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้ปกครองจึงรีบพาขึ้นจากสระว่ายน้ำทันที และโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพกู้ภัยและรถพยาบาล เพื่อนำเด็กนักเรียนส่งโรงพยาบาลเนื่องจากบางรายเริ่มเป็นลมหมดสติซึ่งพบว่า มีเด็กนักเรียน 10 คน และเจ้าหน้าที่ 3 คน ที่ได้สูดดมกลิ่นสารเคมีเข้าไป
ด้านนางพัฒนาวดี จันทร์นวล ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่า ผู้ประสบเหตุทั้ง 13 คน ทางแพทย์ได้ให้การรักษาจนสามารถกลับบ้านได้แล้ว 11 คนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังมีเด็กนักเรียนอีก 2 คน ที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ คือด.ช.พาดล อรุณยะเดช อายุ 12 ปี และ ด.ช.ธีรพล บุญมี อายุ 10 ปีเนื่องจากได้สูดดมกลิ่นสารเคมีเข้าไปมากกว่าคนอื่นๆ ส่วนสาเหตุครั้งนี้เกิดจากฝาปิดถังสารเคมีที่ใช้สำหรับบำบัดน้ำถูกปิดไม่สนิท ทำให้สารเคมี จากการตรวจสอบพบว่าเป็น โซดาแอด ได้ระเหยออกมาในขณะที่เด็กนักเรียนกำลังเล่นน้ำอยู่กว่า 20 คน สูดดมกลิ่นเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้ ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต่อไปต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบมากกว่านี้

อบจ.ขอนแก่น รุดตรวจสอบ! เหตุสารเคมีระเหย ในสระว่ายน้ำ


ปกติแล้วการบำบัดน้ำภายในสระจะทำห่างกัน 2 วัน ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำหลังจากเวลาปิดทำการในเวลา 20.00 น. หมายความว่าจะต้องไม่มีเด็กนักเรียนหรือผู้ที่มี่มาฝึกว่ายน้ำอยู่ภายในสระแม้แต่คนเดียว นอกจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่เอง เพราะตลอด 20 ปีที่ผ่านมาการบำบัดน้ำภายในสระก็จะใช้วิธีการผสมสารเคมีไปเทลงในสระโดยใช้เจ้าหน้าที่เป็นคนเทด้วยตนเอง จากนั้นน้ำก็จะเกิดการตกตะกอน แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะดูดตะกอนนั้นออกทำให้น้ำกลับมาสะอาด ทุกครั้งที่จะทำความสะอาดเจ้าหน้าที่ก็จะนำสารเคมีที่ผสมแล้วมาตั้งไว้โดยจะมีฝาปิดอย่างมิดชิด ก่อนนำมาตั้งไว้บริเวณทางลงจากสระ ห่างจากขอบสระประมาณ 3 เมตร แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่า ฝาปิดนั้นปิดไม่สนิท จึงทำให้โซดาแอดระเหยออกมา นางพัฒนาวดี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น จะปิดให้บริการชั่วคราวเป็นเวลา 2 วัน เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด โดยหลังจากนี้จะหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก โดยเฉพาะการนำเอาถังสารเคมีมาวางไว้ใกล้กับสระว่ายน้ำที่มีคนอยู่ด้านใน ซึ่งกระบวนการบำบัดน้ำจะต้องเกิดขึ้นหลังจากที่ไม่มีผู้ใดอยู่บริเวณด้านในแล้วเท่านั้น

อบจ.ขอนแก่น รุดตรวจสอบ! เหตุสารเคมีระเหย ในสระว่ายน้ำ


นักเคมีเผยเจ้าหน้าที่ใช้สารเคมีจำนวนมากทำให้เกิดอันตราย หัวหน้าภาควิชาเคมีระบุ เจ้าหน้าที่ดูแลสระน้ำอบจ.ใช้สารเคมีมากไป จนเป็นเหตุผลให้ผสมกันแล้วเกิดอาการแสบตา อาเจียน
เมื่อวันที่14 มีนาคม 2559 จากกรณีสารเคมีที่ใช้สำหรับบำบัดน้ำของสระว่ายน้ำ ในสนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่นนั้นเรื่องนี้ ผศ.ดร.ชูศักดิ์ พูนสวัสดิ์ หัวหน้าภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า หลังจากที่ได้ติดตามเรื่องนี้พบว่าสารเคมีที่ทางผู้ดูแลสระว่ายน้ำใช้ในการบำบัดน้ำมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ คือ คลอรีนผง ซึ่งเป็นสารฟอกสีที่ใช้ในอุตสาหกรรมฟอกสีต่างๆ โดยปริมาณที่ใช้อยู่ที่ 30 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าอยู่ในปริมาณที่มาก ทำให้มีความเข้มข้นมากตามไปด้วย เมื่อเกิดการรั่วไหลหรือระเหยออกมาจึงทำให้ผู้ที่สูดดมเข้าไปมีอาการอาเจียน แน่นหน้าอก และหนักสูดอาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้

อบจ.ขอนแก่น รุดตรวจสอบ! เหตุสารเคมีระเหย ในสระว่ายน้ำ


นอกจากโซดาแอชไลท์ที่มีการนำมาใช้บำบัดน้ำของสระน้ำที่สนามกีฬากลางจังหวัดแล้ว เท่าที่ทราบคือมีการใส่สารเคมีตัวอื่นลงไปด้วย เช่น จุลสีหรือคอปเปอร์ซัลเฟตที่ใส่ลงไปให้น้ำเป็นสีฟ้าและช่วยฆ่าเชื้อ แต่หากใส่ในปริมาณมากก็จะเกิดอันตรายได้ ส่วนอีกตัวคือ สารส้ม ซึ่งจะช่วยให้น้ำเกิดการตกตะกอนง่ายต่อการทำความสะอาด ซึ่งสารทุกตัวอันตรายหมด ทั้งนี้ ปกติสระว่ายน้ำที่ดีควรมีค่า PH อยู่ที่ 7.4 - 7.6 ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ว่า เกิดจากความเข้มข้นของสารเคมีที่ใส่ไปในปริมาณมาก เมื่อความเข้มข้นมีมาก จึงให้เกิดไอที่เป็นพิษระเหยออกมา โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เจ้าหน้าที่ที่ดูแลสระว่ายน้ำควรจะเตรียมสารเคมีในเวลาที่ไม่มีคนอยู่ และการเก็บสารเคมีควรเป็นที่ที่อากาศระบายได้ดีผศ.ดร.ชูศักดิ์ กล่าว

logoline