svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ศศิน" ชี้ กระเช้าไฟฟ้าทำลายเสน่ห์การเดินขึ้น "ภูกระดึง"

25 กุมภาพันธ์ 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวี กับกรณีที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เปิดผลศึกษาสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง เสนอให้ ครม.รับทราบ พร้อมระบุมีผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่มาก สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว และช่วยพัฒนาอาชีพให้ชาวบ้าน

นักข่าว : แนวคิดในการสร้างกระเช่าขึ้นภูกระดึง จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ภูกระดึง หรือไม่ ? ?
ศศิน : ตัวกระเช้าไม่มี แต่กิจกรรมที่จะตามกระเช้ามา น่าจะเยอะอยู่
นักข่าว : อาจารย์จะออกมาเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ เรื่องที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างกระเช้าไฟฟ้า
ศศิน : ปกติก็ทำอยู่ เวลามีโครงการอะไรที่มันจะมีผลกระทบ เราก็ให้ข้อมูลกับผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ส่วนจะไปคัดค้านอะไรแบบอย่างงั้น มันก็แล้วแต่เครือข่ายนักอนุรักษ์
นักข่าว : รูปแบบที่มีการศึกษาครั้งนี้ แต่ต่างจากครั้งก่อนๆไหม ?
ศศิน : ก็ไม่ค่อยแตกต่าง คือ โดยตัวกระเช้าไฟฟ้า ไม่ได้ทำลายสภาพแวดล้อม อันนี้มันชัดอยู่แล้ว ผลดีของมันก็คือ สามารถที่จะให้คนขึ้นไปง่าย เอาคนบาดเจ็บลงมาง่าย เอาขยะลงมาได้ด้วย อะไรแบบนี้ อันนี้คือข้อดีที่ไม่มีใครปฏิเสธ แต่คราวนี้เราก็ต้องมามองผลกระทบ วันนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ขึ้นภูกระดึง เป็นนักท่องเที่ยวที่พร้อมที่เดินขึ้นไปศึกษาธรรมชาติข้างบน คือเข้าไป อาจจะไม่ได้ศึกษาธรรมชาติ แต่ขึ้นไปเดินเล่น ไม่ได้หมายถึงเดินลุยๆขึ้นไป 5 กิโลเมตร 3-4 ชั่วโมง แต่หมายความว่า เดินขึ้นไปชมธรรมชาติที่สวยงามข้างบน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เขาเดินขึ้นไปได้ ก็เดินดูข้างบนได้ในพื้นที่หลายตารางกิโลเมตรที่มันสวยมาก มีทั้งน้ำตก มีสารพัด
ที่สำคัญก็คือว่า ภูกระดึงสวย ในแต่ละฤดูกาลก็ต่างกัน อันนี้คือจุดที่ต้องดูละเอียด นั่นคือคุณค่าของภูกระดึง เป็นเส้นทางทางเดินขึ้นเขา ผมประเมินเอง ว่ามันดีที่สุดในประเทศไทย เพราะว่ามันไม่ไกลมาก ใครที่แข็งแรงพอสมควรก็ขึ้นได้หมด ไม่ได้ยาก เมื่อเทียบกับเส้นอื่น ใครที่ขึ้นภูกระดึงเขาก็จะประทับใจ เขาก็จะรักธรรมชาติ ก็จะมีความรู้สึกว่าฉันได้เดินภูกระดึง ฉันรักธรรมชาติ 80-90 เปอร์เซ็น ก็รู้สึกแบบนี้ ดังนั้น ภูกระดึง เป็นโรงเรียนของการเดิน Trekking ที่ดี เป็นแรงบันดาลใจให้คนรักธรรมชาติมา 50 ปี นั้นคือฟังก์ชั่นใหญ่ของภูกระดึง คุณค่าของภูกระดึง ก็คือ มันเป็นเส้น Trekking ที่ใครขึ้นไปก็รักธรรมชาติ 80 เปอร์เซ็นของคนที่แข็งแรงหน่อยก็ขึ้นได้ ไม่ได้อันตรายอะไร

"ศศิน" ชี้ กระเช้าไฟฟ้าทำลายเสน่ห์การเดินขึ้น "ภูกระดึง"


นักข่าว : ในอนาคตถ้ามันมีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไป จะทำให้สเน่ห์ของ ภูกระดึง หายไปไหม ?
ศศิน : เป็นผม ผมก็ไม่เดิน มันไม่ใช่การบังคับ ใครอยากเดินก็เดิน มันไม่มีใครเดินหรอก ก็ขึ้นกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นไปปุ๊บ ก็มีความจำเป็นต้องไปเที่ยวต่อ ไม่ใช่ไปขึ้นกระเช้าเล่น ถ้าจะไป ผาหล่มสัก เนี่ย มันห่างจากกระเช้าไฟฟ้า 9 กิโลเมตร จะไปอย่างไร ทีนี้คนก็ขึ้นไปกันมาก เพราะมีกระเช้า ที่แบบใครก็ขึ้นไปได้ ใส่ส้นสูงไปก็ได้ ข้างบนก็ต้องมีรถมีอะไรไปส่ง ไม่งั้นจะขึ้นเช้าเล่น ถ่ายรูป เซลฟี่แล้วก็ลงมาเลยหรือ ถ้าแบบนั้นมันก็ไม่มีปัญหาอะไร อายุเยอะขึ้นไป ต้องมีรถขนไปอีก ผลกระทบตรงนี้จะทำอย่างไร
นักข่าว : อาจารย์มองว่า ถ้ามีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปภูกระดึง ก็จะมีบริการเสริมเข้ามา เพื่อที่จะส่งคนขึ้นกระเช้าไปตามจุดต่างๆที่เป็นจุดยอดนิยมของ ภูกระดึง ?
ศศิน : มันไปกระเช้าไฟฟ้าต่อไม่ได้แล้วละ มันต้องไปรถแล้วละ คราวนี้ เราก็ไม่พร้อมจะเดินไป เราจะเดินไปยังไง มันก็ลำบาก

"ศศิน" ชี้ กระเช้าไฟฟ้าทำลายเสน่ห์การเดินขึ้น "ภูกระดึง"


นักข่าว : ผลกระทบที่ตามมาก็คือ จะมาภาคบริการเพิ่มขึ้นในพื้นที่โดยรอบของภูกระดึง?
ศศิน : ระบบนิเวศที่เปราะบางของภูกระดึงก็ คือตรงนี้และ ตรงพื้นที่เป็นทราย มีเฟิร์น มีมอส มีช่วงหน้าฝน อันนี้มันเป็นอุทยานแห่งชาติ ไม่ใช่ที่ที่จะไปบริการอะไรแบบนั้น คุณขึ้นไปแรกๆ ก็ขึ้นกระเช้าเล่นกันสนุกๆ แต่พอระยะยาวเนี่ย เอาฝรั่งขึ้นไปเจอป่าสนแบบนี้ บ้านเขาก็เพียบ ขึ้นมาทำไม
นักข่าว : ถ้ามีกระเช้าขึ้นมาแล้ว มันจะทำให้การบริหารจัดการ ยากขึ้น ?
ศศิน : ก็น่าจะบอกว่า มีกระเช้าไฟฟ้าก็ต้องจำกัดจำนวนคนค้างบนนั้น ให้ได้ตามความสามารถในการรองรับ แต่อาจจะยิ่งล้นใหญ่ในช่วงเทศกาล ไม่มีใครลงอะไรแบบนี้หรือเปล่า หรือว่าเขาบังคับลง บังคับได้หรือ! ถ้ามีคนขึ้นไปเป็นพันๆ คน ให้รอคิวลง อาจจะรอ 3 ชั่วโมงก็ได้ พอขึ้นมาปุ๊ป แล้วรอลง ไปแออัดข้างบน ก็เป็นปัญหา ส่วนถามว่า จะเห็นด้วยไม่เห็นด้วย ผมก็เห็นแต่ปัญหา

"ศศิน" ชี้ กระเช้าไฟฟ้าทำลายเสน่ห์การเดินขึ้น "ภูกระดึง"


นักข่าว : ที่สุดแล้วถ้าคณะรัฐมนตรี เห็นชอบกับแนวทางการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง เครือข่ายจะมีการเคลื่อนไหวในรูปแบบไหน ?
ศศิน : ไม่ทราบครับ คือ มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราต้องเสียเส้นทาง Trekking ที่ดีที่สุด ที่ทำหน้าที่มา 50 ปี ไปกับเหตุผลที่ว่ามา น่าเสียดายเฉยๆ เราก็ส่งหนังสือค้านไปตามเหตุผลที่ผมบอก

logoline