svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ดร.จักษ์" อัด! "มส." ป้องธัมมชโย รอดปาราชิก

10 กุมภาพันธ์ 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ดร.จักษ์" อัด! "มส." ปมธัมมชโย รอดปาราชิก ระบุ เมื่อสงฆ์ปฎิบัติตนผิดไปจากธรรมวินัย ไม่สำนึกและยอมรับว่าตนผิด องค์กรที่มีหน้าที่ต้องดำเนินการ เพื่อมิให้ผู้ผิดธรรมวินัย อยู่ในสมณเพศต่อไป

กลายเป็นกระแสร้อนแรงสะเทือน"วงการสงฆ์"วันนี้(10 ก.พ. 59)  DSI ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่แทรกแซงศาสนจักร  เพราะ มหาเถรสมาคม และ สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ มีหน้าที่ต้องปฎิบัติตามลิขิตพระสังฆราช ซึ่ง DSI ระบุว่า "พระธัมมชโย" ต้องอาบัติปราชิก
แต่หลังจากนั้นไม่นานกระแสร้อนแรง"วงการสงฆ์"ระอุอีกครั้ง เมื่อ"มหาเถรสมาคม" ระบุ ธัมมชโย ไม่ปาราชิก ชี้คดียุติไปแล้ว 
และเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ได้แสดงความคิดเห็นโดยโพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ถึงกรณีมหาเถรสมาคม ป้อง"ธัมมชโย" ทำให้ไม่ปาราชิก ความว่า
"กรณีธัมมชโยไม่ปาราชิกกรณีมหาเถรสมาคมยืนยันมติว่าธัมมชโยยังคงสมณเพศ
คงไม่ต้องวิเคราะห์ วิพากษ์อะไรมากมายเพราะความจริงประเด็นนี้ ไม่ต้องให้ผู้ทรงศีลหรือผู้ปฏิบัติธรรมขั้นสูงพิจารณาหรอกครับ สามัญชนคนทั่วไปก็สามารถพิจารณาได้ว่า ผิดหรือไม่ผิด
เพราะผู้ห่มเหลืองควรแก่การรู้ผิดชอบชั่วดีมากกว่าฆราวาส เพราะผู้ห่มเหลืองผู้ได้ชื่อว่าผู้ทรงศีลเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ ย่อมต้องมีหิริโอตัปปะมากกว่ามนุษย์ปุถุชน มิฉะนั้นมนุษย์ปุถุชนจะน้อมกายลงกราบไหว้ได้อย่างไร
หากมิจฉาทิฐิแห่งอคติไม่บังเกิดกับผู้ทำหน้าที่พิจารณากรณีนี้ ผลที่ออกมาก็คงไม่ขัดต่อสายตาแห่งพุทธศาสนิกชนทั่วไป
การกระทำเช่นนี้ควรหรือแก่การดำรงอยู่แห่งองค์กร หากไม่กล้าตัดสินแม้เรื่องที่ปุถุชนทั่วไปรับทราบดีว่าเป็นความผิด แล้วเราชาวพุทธจะฝากความหวังไว้กับองค์กรที่ทำหน้าที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาได้อย่างไร?
ปาราชิกบังเกิด ณ สงฆ์ประพฤติปฎิบัติตนผิดไปจากธรรมวินัย ปาราชิกมิได้เกิดจากการตัดสินขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง
แต่เมื่อสงฆ์ผู้ประพฤติปฎิบัติตนผิดไปจากธรรมวินัย ไม่สำนึกและยอมรับว่าตนผิด องค์กรที่มีหน้าที่ก็ต้องดำเนินการเพื่อมิให้ผู้ประพฤติปฏิบัติผิดธรรมวินัยอยู่ในสมณเพศต่อไป
หากแต่เมื่อองค์กรนั้นทำผิดเสียเองโดยการมิกล้าดำเนินการใดๆ ก็คงเหลือแต่พุทธบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จะต้องตัดสินดำเนินการด้วยตนเอง"

"ดร.จักษ์"  อัด! "มส." ป้องธัมมชโย รอดปาราชิก

logoline