คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ชี้แจงกรณีพระโสภณพุทธวิเทศ เจ้าอาวาสพุทธาราม เมืองเบอร์ลิน เยอรมัน หรือเจ้าคุณเบอร์ลินโพสต์ข้อความในเฟชบุ๊ก พาดพิงดีเอสไอที่ได้มีหนังสือแจ้งไปยังมหาเถรสมาคม ให้รื้อฟื้นอธิกรณ์ ที่คณะสงฆ์ได้วินิจฉัยไปแล้วเพื่อใช้กฎนิคหกรรมปรับอาบัติปาราชิกพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ว่าเป็นการใช้อำนาจฝ่ายอาณาจักรแทรกแซงศาสนจักร และเข้าข่ายชักนำพระสงฆ์
โดยคณะโฆษกดีเอสไอ ชี้แจงว่า พระพุทธอิสระ ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอให้ดีเอสไอตรวจสอบและดำเนินการเรื่องต่างๆวัดพระธรรมกายรวม 17 ประเด็น รวมทั้งขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของพระธัมมชโย และเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอาญาตามพ.ร.บ.สงฆ์ ในข้อหาปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบในการจัดหาซื้อที่ดินและเบียดบังทรัพย์ เป็นของตนเอง การสืบสวนของดีเอสไอพบว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคมได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2542 และมีมติมอบเอกสารพระลิขิตให้เจ้าคณะภาค 1 พิจารณา ซึ่งพระลิขิต มีการนำเสนอที่ประชุมมหาเถรสมาคมในการประชุมเมื่อ 26 เมษายน 2542 และ 10 พฤษภาคม 2542 โดยที่ประชุมได้มีมติสนองพระดำริให้ชอบด้วยกฎหมาย
คณะโฆษกดีเอสไอ ชี้แจงว่า จากข้อเท็จจริงพบว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีเพียงมติรับทราบ แต่ยังไม่ได้ตัดสินหรือรับรองว่าพระธัมชโยต้องอาบัติปาราชิกตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ ดีเอสไอจึงมีหนังสือแจ้งผลการสืบสวนและขอทราบความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องนี้ และจะได้แจ้งผลการดำเนินการให้ ผู้ร้องทราบต่อไป ยืนยันว่าไม่ได้ใช้อำนาจฝ่ายอาณาจักรแทรกแซงศาสนจักร
และเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมาทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้เชิญเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมฟังการชี้แจงการพิจารณาดำเนินการทางวินัยสงฆ์ตามพระธรรมวินัยเกี่ยวกับประเด็นลิขิตสมเด็จพระสังฆราชในประเด็นการอาบัติปาราชิกของพระธัมชโยและจะทำหนังสือชี้แจงดีเอสไอให้รับทราบผลการพิจารณาต่อไป