จี้สั่งปิดโรงเรียนหลังพบรอยร้าว

วันที่8 ก.พ. ความคืบหน้าหลังตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนบ้านหนองไผ่พัฒนา หมู่ 14 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ หลายร้อยชีวิต ต้องทนทุกข์และอยู่กันอย่างหวาดผวามาตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังพบตัวอาคารเรียนปูนขนาด 2 ชั้น ของโรงเรียนที่ก่อสร้างมานานกว่า 38 ปี เริ่มเกิดชำรุดหนักทั้งฝ้าเพดาน โครงหลังคา พื้นไม้ ฝาอาคารและฐานล่างทรุดตัวเสาตัวอาคารแทบทุกต้นเกิดรอยแตกร้าวทรุดตัวหนักจนเห็นเหล็กด้านในโผล่ออกมาจำนวนมาก จึงพากันร้องขอความช่วยเหลือไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1(สพป.ชัยภูมิ เขต 1) และหน่วยงานส่วนกลางโดยตรงที่ สพฐ. ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่กลุ่มงานออกแบบก่อสร้างจาก สพฐ.ลงมาตรวจสอบล่าสุดตั้งแต่เมื่อช่วงวันที่ 24 ต.ค.2557 ที่ผ่านมา เพื่อที่จะดำเนินการจัดหางบประมาณลงมาออกแบบก่อสร้างใหม่ แต่จนแล้วจนรอดปัจจุบันเรื่องก็ยังเงียบกระทั่งผู้ปกครองชาวบ้าน เด็กนักเรียนนับร้อยชีวิตสุดทนจึงวิงวอนผ่านสื่อมวลชนไปถึงนายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ ให้ช่วยเหลือ

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 8 ก.พ. ทางผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มอบหมายให้นายธรีพร พลวัน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชัยภูมิ นำคณะผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบตัวอาคาร พร้อมด้วยคณะตัวแทนจากผอ.สพป.เขต 1 ชัยภูมิ ได้มอบหมายให้นายวิเชียร เคนชมพูมิ รองผอ.สพป.เขต 1 ชัยภูมิ เดินทางลงพื้นที่โรงเรียนบ้านหนองไผ่พัฒนา และร่วมหารือกับนายสมนึกสมบัติมี ผอ.รร.และนายศิรินิลวงษ์ชัย ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนที่ได้รับความเดือดร้อน และร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกันอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง

โดยมีผลสรุปแนวทางการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ร่วมกันอย่างเร่งด่วน ระหว่างที่นายธีรพรพลวันโยธาธิการและผังเมืองจ.ชัยภูมิเปิดเผยว่าผลตรวจสอบตัวอาคารเรียนทั้งหมดยืนยันว่ามีความชำรุดทรุดโทรมหนัก เพราะมีการก่อสร้างใช้งานมานานเกือบ 40 ปี ทั้งฝ้าเพดาน โครงหลังคา พื้นไม้ชั้น 2 ฝาอาคาร และฐานล่างเสาคานเกิดแตกร้าวเสียหายรุนแรงเกือบทั้งหมดตัวอาคาร และจากนี้ไปจำเป็นต้องขอให้หยุดหรือยุติการเข้าใช้ตัวอาคารเรียนแห่งนี้ทั้งหมดโดยเด็ดขาดไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ระหว่างที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทาง สพป.เขต 1 ชัยภูมิ จะได้เร่งเสนอของบประมาณมาช่วยออกแบบปรับปรุงก่อสร้างให้ใหม่ต่อไป

ด้านนายวิเชียร เคนชมพูมิ รองผอ.สพป.เขต 1 ชัยภูมิ กล่าวว่า ระหว่างนี้ที่จะต้องเร่งทำเรื่องเสนอของบประมาณเร่งด่วนเพื่อมาสำรวจออกแบบก่อสร้างตัวอาคารแทนหลังเก่าให้ใหม่จาก สพฐ. ที่น่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 1.8 ล้านบาท และน่าจะต้องใช้เวลาอีกกว่า 3-4 เดือนจากนี้ไป ในระหว่างนี้การแก้ปัญหาการขอยุติห้ามใช้ตัวอาคารทั้งหมดไว้ก่อน ก็จะได้หารือกับคณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน ว่าจะต้องหาที่เรียน หรือหาอาคารเรียนชั่วคราว ทั้งตามโรงเรียนใกล้เคียงและวัดในชุมชนเพื่อให้เด็กได้มีที่เรียนอยู่ไปก่อน จนกว่าจะมีการเร่งดำเนินการออกแบบก่อสร้างอาคารให้หลังใหม่จะเสร็จสิ้นโดยเร็วต่อไป