svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

รักครั้งใหม่ของ‘บิ๊กกี่’ไม่ใช่รักแรกแต่เป็นรักนิรันดร

06 กุมภาพันธ์ 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เซอร์ไพรส์! ไปทั้งวงการการเมืองและการทหาร เมื่อ บิ๊กกี่ พล.อ.นพดล อินทปัญญา หนุ่มใหญ่วัย 70 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนรักของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เปิดตัว น้องอร ประวีณ์นุช เลิศจิตติสุทธิ์ สาวสวยวัย 40 ปี เป็นคู่ใจคนใหม่ พร้อมโชว์ใบทะเบียนสมรส

                     ทั้งคู่เพิ่งไปจดทะเบียนสมรสที่เขตบางรัก เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมประกาศใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจนวันตาย

             พล.อ.นพดล อินทปัญญา เปิดใจอย่างอารมณ์ดีถึงการคบกับ น้องอร ดีกรีปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล ว่า ความเห็นตรงกัน และนิสัยก็ตรงกัน น้องอร เป็นคนน่ารัก ทำให้เกิดความประทับใจ ที่สำคัญอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขมากเท่านั้นเอง

             แม้อายุ 70 ปีแล้ว แต่ บิ๊กกี่ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย ทุกอย่างมันก็ลงตัวหมดแล้วนะ ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร เข้ากันได้ดี และสิ่งที่ประทับใจผู้หญิงคนนี้คือ เธอเป็นคนดี

             พี่ว่าพี่ดูผู้หญิงคนนี้ไม่ผิด เป็นคนร่าเริง และอยู่กับพี่แล้วพี่มีความสุข พี่เหนื่อยจากการทำงาน เครียดงาน และเมื่อกลับมาเจอน้องอรก็มีความสุขเท่านั้นเอง เมื่อมีความสุขก็เลยตกลงแต่งงานกัน"

             เมื่อถามว่า คนนี้จะเป็นคนสุดท้ายของชีวิต พล.อ.นพดล กล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง ว่า เอ่อ...น่าจะเป็นคนสุดท้ายแล้ว แต่อายุขนาดนี้จะไม่สุดท้ายได้อย่างไร เราสัญญากันแล้วว่า จะสร้าง และวางอนาคตไปด้วยกัน และเคียงกันไปอย่างนี้

             เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงและผู้ชายคนหนึ่ง แม้ว่าอายุจะห่างกันมากหน่อย แต่ความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกันก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย เป็นเรื่องธรรมชาติจะตายไป

             พล.อ.นพดล ย้ำคำมั่นสัญญาว่า พี่พูดกับน้องอรตลอดเวลา Youre not my first love, but youre my last

             ขณะที่ น้องอร ประวีณ์นุช เลิศจิตติสุทธิ์ ได้เริ่มสนทนาว่า ได้รู้จักกับ พล.อ.นพดล ในระหว่างงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยมีรุ่นพี่ที่สนิทกับ พล.อ.นพดล ได้แนะนำให้รู้จัก โดยรู้จักกันมาระยะหนึ่งแล้ว ประมาณ 7-8 เดือน จึงตัดสินใจที่จะคบหากัน

             น้องอร เล่าให้ฟังต่อว่า การพูดคุยกันครั้งแรกก็ไม่ได้หวือหวาอะไร เป็นการพูดคุยกันตามปกติ โดยการแนะนำให้รู้จักกันว่า พี่กี่ เป็นใคร หลังจากนั้นก็เจอกันบ่อย และได้คุยกันมากขึ้น จนรู้นิสัยใจคอกันมากขึ้นกว่าเดิมว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร

             พี่กี่เล่าให้ฟังทุกเรื่องไม่ได้ปิดบัง แต่ทุกคนก็มีอดีตอยู่แล้ว เราเองก็มีอดีต ดังนั้นก็ต้องลืมอดีตให้หมด และจะต้องมีปัจจุบันกับอนาคตอยู่ด้วยกันว่าจะทำอะไรให้มีความสุข

             เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ได้เข้าไปเป็นหนึ่งใน สะใภ้เตรียมทหารรุ่นที่ 6 (ตท.6) น้องอร กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า จริงๆ แล้วไม่ได้คิดแบบนั้นนะ ใจอยากอยู่เงียบๆ ไม่อยากจะเป็นข่าวอะไร ไม่อยากเด่น ดัง ไม่อยากเป็นที่จับตาของสังคม ว่าจะพรีเซ็นต์ หรืออวดอะไร แต่บังเอิญวันนั้นเจอนักข่าวเลยมาถ่ายรูป พอมีการนำรูปไปลงมีทั้งชื่นชมยินดี และมีการต่อว่า ก็รู้สึกว่าตั้งรับไม่ทัน ทั้งนี้ อยากฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆ ตท.6 ที่ได้เข้ามาเป็นสะใภ้ของรุ่นนี้

             พี่กี่เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย และดูแลเอาใจใส่อย่างดี ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน และเปลี่ยนมาคบกัน จนกระทั่งมาจดทะเบียนด้วยกัน ซึ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมมาจนถึงทุกวันนี้ และวันนี้ก็รู้สึกว่าพี่กี่ทำให้มากมาย และมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะพี่กี่เป็นคนอารมณ์ดี ไม่เครียดอะไร เราก็รู้สึกว่าเมื่ออยู่ด้วยและมีความสุข

             ส่วนประเด็นที่สังคมสนใจคือ น้องอร เป็นน้องสาวแท้ๆ ภรรยาของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้น น้องอร กล่าวว่า เรื่องนี้อย่ามาโยงในเรื่องการเมืองเลย ตนกับพี่กี่เป็นความรักที่เกิดขึ้นมาระหว่างคนสองคน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง แม้ว่าจะมีพี่เขยเป็นอดีต รมว.ไอซีที เรื่องนี้จะมาโยงกันไม่ได้ เพราะไม่ได้อิงทางการเมือง ที่สำคัญพี่กี่ก็รู้จักกับครอบครัวของพี่เขย โดยเฉพาะคุณพ่อ ที่เป็นทหารเหมือนกัน ก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาก่อน

             ตอนนี้พี่กี่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราแล้ว และได้เจอครอบครัวของทั้งสองฝ่ายแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องราวดีๆ เป็นเรื่องที่สวยงามไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้มีคนพยายามจับโยงให้เข้าไปเกี่ยวข้องทางการเมือง โดยเฉพาะกระแสข่าวที่จะให้พี่กี่เป็นตัวประสานทางการเมือง ซึ่งความจริงไม่เกี่ยวกันเลย และพี่กี่ก็ไม่เคยพูดถึงในเรื่องนี้

             น้องอร ยังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับกระแสข่าวในโลกออนไลน์ ที่มีการตั้งคำถามว่า ทั้งสองอายุต่างกันมาก ฝ่ายหญิงจะมาหวังเงินทอง หรือสมบัติของพี่กี่หรือเปล่า ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย เพราะไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับการเงิน แต่เป็นความรักที่บริสุทธิ์จริงๆ อย่ามาพูดว่าจะไปปอกลอกอะไรจากพี่กี่ ซึ่งเราใช้ความเป็นธรรมชาติรู้จักกันมาตลอด ตอนนี้มีคนมาเมนท์ว่าตนตลอด

             จริงๆ แล้ว พื้นฐานครอบครัวน้องอร ก็ค่อนข้างมีฐานะ โดยน้องอรเรียนจบมัธยมที่โรงเรียนมาแตร์ จบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมหิดล และมีธุรกิจส่วนตัว ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทอง แต่เป็นเรื่องราวความรักที่บริสุทธิ์ของคนสองคน แม้ว่าอายุจะต่างกัน ก็ไม่ได้เกิดช่องว่างระหว่างวัย

             เพราะพี่กี่เป็นคนอารมณ์ดี ร่าเริง และแอ็กทีฟตลอดเวลา เมื่ออยู่ด้วยก็มีความสุข และมีน้ำใจกับทุกๆ คน             ส่วนเพื่อนรักของ บิ๊กกี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้น น้องอรก็เคยได้พบ พล.อ.ประวิตร ต้อนรับสะใภ้เตรียมทหารรุ่น 6 เป็นอย่างดี

             ท่านให้ความรักความเมตตาเราดี ต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกท่าน ที่ให้กำลังใจ และเห็นเราเข้าใจกันได้ดีมีความเหมาะสม และเห็นว่าเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และเข้าใจกันด้วยดี เราอยู่ด้วยกันไม่เคยทะเลาะกันอยู่ด้วยความเข้าใจกันมาตลอด

             สำหรับวาเลนไทน์ปีนี้ ได้มีการเตรียมของหวังเซอร์ไพรส์กันหรือไม่น้องอร กล่าวพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยว่า อันนี้ขอเก็บเป็นเซอร์ไพรส์บอกไม่ได้ เพราะเราทั้งสองคนชอบทำเซอร์ไพรส์เหมือนกัน ดังนั้นขอเก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์กันดีกว่า ซึ่งอยากให้เก็บความประทับใจเอาไว้ในวันนั้น

             ในวัย 70 ปี ของผู้ชายคนนี้ ที่น้องอรจะฝากชีวิตไว้ จะเป็นอุปสรรคหรือไม่? น้องอร กล่าวอย่างมั่นใจ พี่กี่ยังแข็งแรง และอารมณ์ดี ดูแล้วยังไม่แก่เลย

             มั่นใจในสิ่งที่พี่กี่มอบให้ตั้งแต่วันแรกมาจนถึงทุกวันนี้ หากไม่มั่นใจก็จะไม่ตกลงใจชีวิตอยู่ร่วมกัน ส่วนทายาทยังไม่คิด และคิดว่าคงจะไม่มี เพราะชอบเที่ยวกัน ชอบทะเล และภูเขา

             แม้จะต่างวัย แต่ทั้งคู่มั่นใจในรัก และรักนั้นจะยืงยงชั่วนิจนิรันดร์

logoline