ชาวนาเร่งปลูกพืชน้ำน้อย แทนการทำนาปรัง

เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ ต.มะขามเฒ่า อ. วัดสิงห์ จ. ชัยนาท หันมาปลูกพืชผสมที่ใช้น้ำน้อย ทนแล้ง ลดความเสี่ยงเนื่องจากไม่มีน้ำทำนา สร้างรายได้เสริมแบบพออยู่พอกินเลี้ยงครอบครัวตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากสถานการณ์ภัยแล้งที่มาเร็วกว่าปกติทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติหลายแห่งเริ่มมีปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
ลุงสังวาร หนึ่งในชาวนาที่นี้บอกว่า ไม่ได้ทิ้งอาชีพทำนา เพราะเมื่อไหร่ที่มีน้ำก็คงกลับมาทำนาดังเดิม แต่สถานการณ์ตอนนี้อะไรที่ทำให้มีรายได้ก่อนก็ต้องรีบทำ ปลูกถั่วนั้นรายได้อาจจะไม่เท่ากับการทำนา วันนี้ไม่ต้องพูดถึงการใช้หนี้ แค่พอมีกินไปวันวันก็พอแล้ว
ป้าทรัพย์ ชาวนาพื้นที่จ.ชัยนาท ก็เปลี่ยนจากการทำนาปรัง มาเป็นการค้าขายผัก ขายมันทอด เพื่อสนองนโยบายของภาครัฐ งดทำนาปรังเช่นกัน ป้าบอกว่าจะให้ไปปลูกถั่ว ก็คงไม่มีทุน เพราะตอนนี้หาเช้ากินค่ำ รายได้ลดลงแต่ภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทางด้านกรมชลประทานได้บอกว่า ปัจจุบันการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา อยู่ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2558/59 โดยมีแผนการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ที่มีปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ที่น้อย สำหรับเพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น โดยจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์จนถึงเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ลดต่ำลงตามไปด้วย มีการคาดการณ์ว่า จะคงที่และลดลงอีก ไม่มีแนวโน้มที่จะมีน้ำเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน จึงอยากให้เกษตรกร ชาวนา เข้าใจในแผนการกักเก็บน้ำไว้ใช้ สำหรับอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ ในช่วงภัยแล้งปี 58/59.... หากจะทำการปลูกข้าว ขอแนะนำให้หยุดปลูก....ก่อนที่จะขาดทุน และมีหนี้สินเพิ่ม อยากแนะนำให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ตามคำแนะนำของเกษตรจังหวัดชัยนาท เพื่อที่จะมีรายได้หมุนเวียน ช่วงหยุดทำนา