ชาวบ้านบุรีรัมย์โวยถมที่ขวางทางน้ำ "ทำน้ำท่วม"

(2 ต.ค. 58) ชาวบ้านบ้านกองพระทราย ม.4 ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ กว่า 10 ครัวเรือนได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังได้รับผลกระทบจากมีนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ถมที่ดินบริเวณติดริมถนนสายอ.ปะคำ โนนดินแดง สูงกว่า 2 เมตรเพื่อเตรียมก่อสร้างที่อยู่อาศัย แต่มีการวางท่อขนาดเล็กทำให้เกิดปัญหาน้ำไหลไม่สะดวก ทั้งดินที่ถมบางช่วงไปกีดขวางทางน้ำ ส่งผลให้น้ำฝนที่ตกลงมาตลอดคืนที่ผ่านมาและน้ำจากป่าเขาที่ไหลสมทบเข้ามาในตัวอำเภอ ระบายลงสู่คลองหรือแหล่งน้ำธรรมชาติไม่ทัน ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือน ทรัพย์สินภายในบ้านเสียหาย รวมถึงคอกหมู เล้าไก่ และนาข้าวที่กำลังตั้งท้องอีกจำนวนหลายสิบไร่ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ขณะที่เจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าวที่ชาวบ้านอ้างว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมกลับเมินเฉย  ชาวบ้านจึงได้เรียกร้องให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายทั้งทรัพย์สิน นาข้าวที่ถูกน้ำท่วมด้วย

น.ส.นิชาภัทร ทิพย์พงษ์ ชาวบ้านบ้านกองพระทราย บอกว่า ที่ผ่านมาในหมู่บ้านไม่เคยเกิดปัญหาน้ำท่วม แต่หลังจากที่มีการถมที่ดินบริเวณติดริมถนน ซึ่งเป็นช่องทางที่น้ำไหลผ่านลงสู่คลองธรรมชาติ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหากีดขวางทางน้ำและน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือน และนาข้าวที่กำลังตั้งท้องได้รับความเสียหาย จึงอยากเรียกร้องให้ทางภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ และให้เจ้าของที่ดินที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมออกมารับผิดชอบ
นายเสนาะ โต๊ดชนัง ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอีกราย กล่าวว่า หลังมีการถมที่บริเวณดังกล่าวก็ทำให้เกิดน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือน และนาข้าวได้รับความเสียหาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านก็เคยทักท้วงกับเจ้าของที่ดินดังกล่าวแล้วอย่าถมกีดขวางทางน้ำ แต่เจ้าของที่กลับเมินเฉยไม่ได้สนใจเลย กระทั่งมาเกิดปัญหาน้ำท่วมขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านหลายครัวเรือน แต่เจ้าของที่ดินก็ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ จึงร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ

นายเพชร สุพพัตกุล นายอำเภอปะคำ กล่าวว่า หลังได้รับรายงานก็ได้ประสานไปยังทางเทศบาลตำบลปะคำ ให้นำเครื่องจักรเข้าไปทำการขุดเปิดทางน้ำ บริเวณที่มีการถมดินกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้น้ำสามารถไหลได้อย่างสะดวกเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในเบื้องต้นแล้ว ส่วนกรณีที่ทรัพย์สิน หรือนาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายนั้น ก็จะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป